ครีเอทีฟสองคนย่อมไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะมีบทบาทเดียวกัน หรือกำลังทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์หนึ่ง แต่ละคนจะมีกระบวนการของตนเองในการเปลี่ยนไอเดียให้เป็นชิ้นงานที่เสร็จสมบูรณ์
เราได้พูดคุยกับนักดนตรี ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ และช่างภาพ เพื่อค้นหาว่า Dropbox มีบทบาทสำคัญในการทำให้ไอเดียเป็นจริงได้อย่างไร
Miguel Soltero: นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และวิศวกรจาก Chromatic 12
ในฐานะผู้ร่วมมืออิสระทางด้านดนตรีที่ทำงานในหลากหลายแนวเพลง Miguel ไม่เคยทราบเลยว่าวันๆ หนึ่งจะเป็นอย่างไร เขามักจะรับบทบาทเป็นนักแต่งเพลง วิศวกรบันทึกเสียง มิกเซอร์ และยังเป็นโค้ชเสียงในเส้นทางการผลิตเพลง การพากย์เสียง หรือโครงการด้านเสียงที่สมบูรณ์แบบ และจากการทำงานระยะไกลที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Miguel พบว่า Dropbox เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดเก็บและส่งไฟล์เสียงขนาดใหญ่ได้ในทันที
“คุณจะพบเซสชัน Pro Tools, แทร็กเสียงคร่าวๆ, ไฟล์ WAV, MP3 และไฟล์เสียงเกือบทุกประเภทที่นึกได้ใน Dropbox ของผม” Miguel กล่าว “และคุณสมบัติการมาร์กอัปโดยตรงของแพลตฟอร์ม รวมถึงความสามารถในการเพิ่มความคิดเห็นในช่วงเวลาช่วยให้ไม่ต้องพยายามคาดเดาถึงสิ่งที่ลูกค้าและผู้ร่วมมือกำลังสื่อตลอดทั้งกระบวนการสร้างสรรค์”
ทุกโครงการจะเริ่มต้นโดยที่ Miguel ส่งออกลิงก์ Dropbox เพื่อให้ลูกค้าสามารถแบ่งปันไฟล์การทำงานและเซสชันการบันทึกได้
“ลูกค้าจะเริ่มเซสชันและบันทึกบางอย่างลงในพื้นที่ของตนจากทุกแห่งในโลก โพสต์ไปยัง Dropbox แล้วผมก็สามารถเปิดฟังในสตูดิโอของผมได้แทบทันที” เขากล่าว “ผมยังสามารถเพิ่มการแก้ไขและงานด้านวิศวกรรมของผมเอง แล้วจบด้วยการบันทึกเสียงมิกซ์อย่างมืออาชีพแทบจะเรียลไทม์ได้ภายในเซสชันเดียวกัน”
ความสะดวกในการแบ่งปันไฟล์ทางออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการสร้างสรรค์ของ Miguel “แค่สามารถซิงค์กับไฟล์ได้ทันที และไปอยู่ในมือของลูกค้าได้ภายในไม่กี่วินาทีก็เป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับผมแล้ว” เขากล่าว
เนื่องจาก Miguel มีระเบียบสูงเป็นนิสัยอยู่แล้ว จึงเห็นว่า Dropbox เป็นเครื่องมืออันสมบูรณ์แบบ ซึ่งมีทั้งความรวดเร็วและประสิทธิภาพต่อการยกระดับโครงการของตนให้มีคุณภาพระดับสตูดิโอ ท้ายที่สุดแล้วจะรู้สึกได้ว่ากระบวนการทำเพลงมีความเป็นหนึ่งเดียวกันและราบรื่น แม้ในเวลาที่ทุกฝ่ายไม่สามารถอยู่ในสตูดิโอด้วยกันได้ก็ตาม
ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟทั้งแบบเต็มเวลาและอิสระ David ทำงานร่วมกับลูกค้าหลายรายที่มีคำขอด้านครีเอทีฟต่างๆ ตั้งแต่การนำเสนองานใหม่ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ และการส่งมอบงานอื่นๆ ให้กับแบรนด์ CPG มากมาย David ทำให้ลูกค้าพึงพอใจด้วยการรักษาโครงสร้างไฟล์ที่เป็นระเบียบและสอดคล้องไว้ใน Dropbox
เมื่อเริ่มต้นโปรเจ็กต์ใหม่ David เลือกใช้ Dropbox Sign เพื่อให้ลงนามสัญญาที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เขาไม่เคยเสียเวลาไปกับการสร้างเอกสารใหม่ เนื่องจาก Dropbox ช่วยเก็บรักษาแม่แบบของแบบฟอร์มมาตรฐานทั้งหมดไว้ในที่เดียวกัน
“ผมแค่เข้าไปในโฟลเดอร์สำหรับเอกสารประเภทนั้น เพิ่มที่อยู่อีเมลใหม่เข้าไป แล้วส่งออกเอกสารเพื่อขอลายเซ็นได้ภายในไม่กี่วินาที” David กล่าว
หลังจากลงนามสัญญาแล้ว David ใช้ Dropbox Paper เป็นเครื่องมือจัดการโครงการเพื่อสร้างลำดับเวลาและสร้างรายการงาน ซึ่ง David เน้นย้ำว่าเป็นมากกว่าเอกสาร Word ที่จริงแล้ว วิธีการนี้เป็นวิธีที่เขาเลือกใช้เสมอเพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับการกำหนดเวลาและการส่งมอบงาน
เมื่อ David พร้อมให้ลูกค้าตรวจสอบงานแล้ว ก็จะส่งไฟล์ผ่านลิงก์จาก Dropbox ซึ่งวิธีดังกล่าวช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายสามารถเพิ่มความคิดเห็นโดยตรงลงในไฟล์ที่ได้รับ
“ข้อคิดเห็นทั้งหมดที่อยู่ในเอกสารเดียวกันทำให้ผมไม่จำเป็นต้องขุดค้นการสนทนา อีเมล หรือสิ่งอื่นๆ ที่ลูกค้าส่งกลับไปกลับมา เพราะทั้งหมดนี้รวมอยู่ในที่เดียวกัน” เขากล่าว
เมื่อส่งไฟล์ให้กับหลายๆ ฝ่าย David ไว้วางใจให้ Dropbox Transfer พาโปรเจ็กต์ต่างๆ เดินหน้าต่อไป
“ผมมั่นใจเมื่อเห็นว่าใครดูหรืออนุมัติอะไรไปบ้าง รวมถึงว่าทุกคนได้รับไฟล์ที่ถูกต้อง และสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย แถมผมยังจำกัดผู้มีสิทธิ์เข้าถึงได้อีกด้วย” เขากล่าว
ระดับการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้มีความสำคัญสำหรับทั้ง David และลูกค้า เพราะทำให้มั่นใจได้ว่างานต่างๆ จะไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น
David อาศัย Dropbox ในการจัดระเบียบไปพร้อมๆ กับจัดสรรเวลาให้กับหลายโครงการ ตั้งแต่การขอลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงการส่งมอบไฟล์อย่างปลอดภัย และการรวบรวมข้อคิดเห็น
“เมื่อใดก็ตามที่ผมได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ผมจะดาวน์โหลด Dropbox เป็นอย่างแรกเลย” เขากล่าว
Josh Edelson: ช่างภาพจาก Edelson Photography
การถ่ายภาพระดับมืออาชีพนำพา Josh ไปยังสถานที่ต่างๆ ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเกี่ยวกับไฟป่าในแคลิฟอร์เนียให้กับหนังสือพิมพ์ระดับชาติ หรือการถ่ายภาพส่วนศีรษะระดับไฮเอนด์ให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ก็ทำให้ Josh ต้องเดินทางไปที่ต่างๆ อยู่เสมอ และเมื่อจำเป็นต้องเข้าถึงหรืออัพเดทข้อมูลที่เก็บบันทึกจากระยะไกล เขาเลือกที่จะใช้ Dropbox
Josh ใช้ Dropbox มานานกว่าสิบปี และเห็นว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเข้าถึง แบ่งปัน และจัดเก็บไฟล์ของตนเอง โดยในบางวัน เขาโอนย้ายรูปภาพไปให้บรรณาธิการข่าวขณะอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง และบางวันก็ขายภาพที่เก็บบันทึกไว้จากร้านกาแฟที่อยู่ในอีกประเทศหนึ่ง
“ผมแค่ค้นหาคำสำคัญบนโทรศัพท์ แล้วก็พบรูปภาพที่จะใช้อ้างอิงภายใน 15 วินาที” Josh กล่าว
นอกจากจะเข้าถึงได้แล้ว เขายังทราบดีว่างานทั้งหมดได้รับการสำรองข้อมูลไว้เผื่อในกรณีที่เกิดอะไรขึ้นกับอุปกรณ์ของตนเอง
Josh แบ่งปันไฟล์ภาพถ่ายกับผู้ร่วมมือและลูกค้าโดยตรงผ่าน Dropbox เมื่อ Josh ว่าจ้างนักตัดต่อให้ช่วยทำงาน เขาจะสร้างโฟลเดอร์แยกต่างหากที่มีแค่ภาพที่เกี่ยวข้อง
“ตัวเลือกที่ให้ลิงก์ดาวน์โหลดโดยตรงมีความสำคัญกับผมมากๆ เพราะช่วยให้ทั้งนักตัดต่อและลูกค้ามีไฟล์ทั้งหมดที่ต้องการได้ในทันที” เขากล่าว
Josh ต้องเดินทางบนท้องถนนเป็นเวลานาน เขาจึงจัดเก็บข้อมูลอื่นๆ นอกจากไฟล์งานลงใน Dropbox
“ผมใช้ Dropbox กับข้อมูลดิจิทัลทุกๆ ชิ้นของผม เช่น แบบฟอร์มภาษี รูปภาพสแกนจากวัยเด็ก และยังรวมถึงคอลเลกชันเพลงทั้งหมดของผมอีกด้วย” เขากล่าว
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าความสามารถในการเข้าถึงรูปภาพและเอกสารส่วนตัวจากที่ใดก็ได้ตลอดเวลา ไม่เพียงจำเป็นต่อวิธีการทำงานเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเขาเช่นกัน
Dropbox สร้างทุกกระบวนการสร้างสรรค์ให้ประสบผลสำเร็จ
ผู้เชี่ยวชาญด้านครีเอทีฟแต่ละคนเหล่านี้อาจมีวิธีจัดการกับโครงการตามแบบของตัวเอง แต่ทุกคนได้นำ Dropbox เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำงานของตน ไม่ว่าจะผ่านการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ รอบการตรวจสอบที่ราบรื่น หรือการเก็บบันทึกดิจิทัลก็ตาม Dropbox ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวจัดระเบียบและส่งมอบงานที่ดีที่สุดของตนได้