Skip to content (Press Enter)

เปรียบเทียบวิธีที่ทีมงานสร้างสรรค์ทำงานได้มากขึ้นระหว่าง Dropbox กับ Google Drive

หากคุณกำลังมองหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและการแบ่งปันไฟล์บนคลาวด์แบบพื้นฐาน ทั้ง Dropbox และ Google Drive ก็สามารถอำนวยให้ได้ แต่หากถามว่าโซลูชันใดเป็นบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ดีที่สุด Dropbox ก็จะเป็นโซลูชันที่หลายทีมหันมาให้ความสนใจเมื่อต้องการทำงานให้เสร็จผ่านหลายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ หลายระบบและซอฟต์แวร์ และทั้งทำงานภายในและภายนอก
คนสองคนกำลังทำงานโครงการและสแกนเอกสารอยู่

เหตุผลที่ลูกค้า Google ชอบใช้ Dropbox

และหากใช้ Dropbox ทีมจะสามารถทำงานร่วมกันสามารถทำงานร่วมกันในไฟล์เสียงและไฟล์วิดีโอได้หลายเทราไบต์ รวมถึงดูตัวอย่างไฟล์ออกแบบ Adobe ขนาดใหญ่ และรวบรวมข้อคิดเห็นจากลูกค้าและผู้จัดหาด้วยการแสดงความคิดเห็นในช่วงเวลา (หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นเฉพาะเฟรมด้วยแอด-ออน Dropbox Replay)
มีคนกำลังดูไฟล์ส่วนตัวต่างๆ ในบัญชี Dropbox ของตนอยู่

Dropbox ลดความซับซ้อนในการทำงานร่วมกันด้านเนื้อหา

การสับเปลี่ยนใช้งานระหว่างอุปกรณ์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ใน Google Workspace ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายเพียงพอสำหรับคุณแล้ว แต่หากลูกค้าและผู้จัดหาของคุณใช้ชุดโปรแกรมผลิตภาพที่ต่างออกไป เช่น Microsoft 365 หรือใช้ Mac OS แล้วคุณใช้ Android ทุกๆ อย่างก็น่าหงุดหงิดขึ้นอีก และหากทุกคนกำลังพยายามทำงานบนไฟล์ขนาดใหญ่ร่วมกัน ก็อาจเป็นเรื่องที่โกลาหลได้เลย

การทำงานร่วมกันในโลกการทำงานระยะไกลในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงต้องมีการทำงานที่ง่ายดาย Dropbox ช่วยให้บุคคลทั่วไปและทีมได้ดูตัวอย่าง จัดการ ตรวจทาน และส่งมอบไฟล์ที่ซับซ้อนทุกประเภทได้อย่างรวดเร็วง่ายดายยิ่งขึ้นจากทุกที่และทุกอุปกรณ์

Agility in Mind กับการทำร่วมกับ Dropbox 

คุณสามารถเลือกเครื่องมือที่สามารถปรับตามธุรกิจของคุณได้ง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มแรก หากธุรกิจต้องการมีความยืดหยุ่น วิธีที่ดีที่สุดคือการทำลายข้อจำกัดที่มีอยู่ทิ้งไป และ Dropbox จะช่วยคุณทำลายข้อจำกัดเหล่านั้นทั้งหมด
Andrew Jones, CEO จาก Agility in Mind 
รูปภาพของ Andrew Jones, CEO จาก Agility in Mind

Google ไม่มีการรองรับการทำงานเชิงลึกร่วมกับการใช้งานสื่อแบบสมบูรณ์ แต่ Dropbox ช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องนี้ได้

Dropbox ออกแบบมาให้เหมาะกับความต้องการของผู้สร้างเนื้อหาขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นหน่วย TB เพื่อให้คุณสามารถซิงค์การอัพโหลดไฟล์ขนาดใหญ่สูงสุด 2 TB (แม้แต่ไฟล์ CAD ขนาดใหญ่และไฟล์วิดีโอ 4K ก็ซิงค์ได้) แล้วทำงานต่อไป ในทางกลับกัน Google Drive ปิดกั้นไม่ให้คุณอัพโหลดไฟล์ได้อีกเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงหากคุณอัพโหลดถึงขีดจำกัด 750 GB และหากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ในวันนั้นคุณจะทำอะไรไม่ได้อีกเลย 

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ก็มีความรวดเร็วและราบรื่น เนื่องจากฟังก์ชันการสำรองข้อมูลเฉพาะส่วนจะอัพโหลดเพียงแค่ส่วนที่ได้รับการอัพเดทแล้วของไฟล์ขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณไม่ต้องรอให้การโอนย้ายเสร็จสิ้น 

สำหรับขั้นตอนการทำงานการตลาด การโฆษณา การออกแบบ และภาพยนตร์/วิดีโอ Dropbox ก็มีให้ครบจบในที่เดียว เพราะเป็นแหล่งที่คุณสามารถเริ่มโปรเจ็กต์ เขียนเนื้อหา แล้วทำการแบ่งปัน ตรวจทาน แก้ไขไฟล์ แสดงความคิดเห็น และส่งมอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายให้กับลูกค้าได้ในพื้นที่ปลอดภัยแห่งเดียว 

ช่างกล้องกำลังปรับการตั้งค่าอุปกรณ์อยู่

Dropbox จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปไล่ดูประวัติเวอร์ชันเอง

Google Drive มีเพียงประวัติเวอร์ชันที่ชัดเจนให้เฉพาะประเภทไฟล์ Docs, Sheets และ Slides แต่สำหรับไฟล์ประเภทอื่นนั้น ผู้ใช้จะต้องเปิดใช้งานการติดตามประวัติเวอร์ชันให้ทีละไฟล์ในทุกๆ ครั้ง แต่หากใช้ Dropbox ทีมจะสามารถดูประวัติการเปลี่ยนแปลงของแต่ละไฟล์ได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปแบบใดก็ตาม และประวัติเวอร์ชันแบบขยายจะช่วยให้สามารถรักษาความสม่ำเสมอของแบรนด์ให้กับทุกโปรเจ็กต์ได้ เพราะคุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาเก่าได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกกู้คืนไฟล์ครั้งเดียวแล้วสำรองข้อมูล คุณก็สามารถบันทึก เข้าถึง และอัพเดทเวอร์ชันไฟล์ได้ รวมถึงยังสามารถกู้คืนโฟลเดอร์หรือโปรเจ็กต์ที่สูญหายย้อนหลังได้นานถึง 10 ปีอีกด้วย
มีคนกำลังกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบไปแล้วในบัญชี Dropbox ของตน

Dropbox ลดความซับซ้อนของการตรวจทานงานวิดีโอและเสียง

คุณสามารถประหยัดทั้งเวลาและแบนด์วิดท์ได้ด้วยการดูตัวอย่างไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงทั้งหมดผ่าน Dropbox Replay เพียงแค่คุณข้ามขั้นตอนการดาวน์โหลดและการสตรีมเวอร์ชันต่างๆ ของเนื้อหา ทุกอย่างก็ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับคุณ สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าของคุณ 

เครื่องมือแสดงตัวอย่างที่ทรงประสิทธิภาพของ Dropbox รองรับไฟล์ประเภทต่างๆ ถึง 288 ประเภท ซึ่งมากกว่าที่ Google Drive สามารถแสดงได้ถึงสามเท่า ดังนั้นเมื่อคุณต้องการเข้าถึงไฟล์อย่างรวดเร็ว กระบวนการตรวจทานก็จะไม่สะดุดเพราะคุณไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์

Dropbox Transfer ช่วยให้คุณสร้างความประทับใจแต่แรกเห็นด้วยการส่งมอบไฟล์ที่ปลอดภัยและสวยงาม

การโอนย้ายไฟล์ของแบรนด์สามารถส่งมอบไฟล์ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าโปรเจ็กต์ขั้นสุดท้ายของคุณได้รับการรวมส่งเป็นแพ็คเกจแบรนด์ที่สวยงามและเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะส่งให้กับลูกค้าหรือ CEO ของคุณก็ตาม
มีคนกำลังส่งไฟล์ PDF ที่ป้องกันด้วยรหัสผ่านจำนวน 2 ไฟล์ด้วย Dropbox Transfer

เมื่อเปรียบเทียบกับ Google Drive แล้วเป็นอย่างไร

 พื้นที่จัดเก็บข้อมูลและการซิงค์

Dropbox

Google Drive

ขีดจำกัดการอัพโหลดขนาดไฟล์จากเดสก์ท็อป

2 TB

5 TB

ขีดจำกัดการอัพโหลดรายวัน

ไม่มี

750 GB

ความสามารถในการมีเนื้อหาเฉพาะบนคลาวด์

มี

มี

อัพโหลด / ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่พร้อมกัน

มี

ไม่มี

อุปกรณ์เคลื่อนที่

Dropbox

Google Drive

การอัพโหลดจากกล้องโดยอัตโนมัติ

มี

ไม่มี 

การสแกนเอกสาร

มี

เฉพาะ Android เท่านั้น

การดูและการทำงานโครงการร่วมกัน

Dropbox

Google Drive

ตัวอย่างไฟล์กว่า 100 ประเภท

มี

จำกัดน้อยกว่า 50 ประเภท

ตัวอย่างตัวแปลงสัญญาณไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงระดับมืออาชีพ (MXF และ MTS)

มี

ไม่มี

กู้คืนเวอร์ชันก่อนหน้าของไฟล์ทั้งหมดใน 1 คลิก

มี

ประเภทไฟล์ของ Google เท่านั้น (Docs, Sheets, Slides)

การค้นหาเมตาดาต้า

มี

มี

การโอนย้ายไฟล์แบบมีแบรนด์ (สูงสุด 250 กิกะไบต์*)

มี

ไม่มี

ขอไฟล์จากผู้ร่วมมือ

มี

ไม่มี

การแสดงความคิดเห็นตามเฟรมสำหรับวิดีโอ (รวมอยู่ใน Dropbox Replay)

มี

ไม่มี

การแสดงความคิดเห็นในช่วงเวลาสำหรับวิดีโอและไฟล์เสียง*

มี*

ไม่มี

ดูบุคคล (และเวลา) ที่เข้าดูไฟล์ในแต่ละไฟล์

มี

ไม่มี

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ผสานการทำงานในตัว

Dropbox Sign

ไม่มี

การผสานการใช้งานเชิงลึกกับ Adobe

Dropbox

Google Drive

ตัวอย่างและคำอธิบายประกอบไฟล์ Adobe (PSD, EPS, AI และอื่นๆ อีกมากมาย) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใช้งาน 

มี

ไม่มี

ผสานการทำงานบนเครื่องกับ Premier Rush

มี

ไม่มี

*มีให้บริการหากใช้แอด-ออน Dropbox Replay
การเพิ่มประสิทธิภาพของ Dropbox

Dropbox เจาะลึกเกี่ยวกับการผสานการทำงานร่วมกับสื่อแบบสมบูรณ์

ดำเนินการในสิ่งที่ต้องทำโดยตรงจาก Dropbox พร้อมกับใช้เครื่องมือรายการโปรดของคุณสำหรับวิดีโอ เสียง และการถอดความ เพียงแค่ใช้การผสานการทำงานต่อไปนี้  

มือสองมือนำส่วนจิ๊กซอว์มาต่อกัน
ปลอดภัยอยู่เสมอ

เสริมความแข็งแกร่งให้กับการรักษาความปลอดภัยเนื้อหาสร้างสรรค์ของคุณ

เมื่อพูดถึงเนื้อหาอันมีค่าของคุณ แอปเฉพาะกลุ่มมักจะไม่มีระดับการรักษาความปลอดภัย การควบคุม หรือการมองเห็นที่เหมือนกับเครื่องมือระดับองค์กรอย่าง Dropbox 

ตัวอย่างของคุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยจาก Dropbox มีดังนี้

  • ประวัติเวอร์ชันแบบขยายและการกู้คืนไฟล์ในคลิกเดียว
  • การเข้ารหัสสำหรับไฟล์ ทั้งระหว่างการโอนย้ายและขณะเก็บรักษา
  • การรองรับ EMM และ Google Cloud Identity

มือกำลังพิมพ์รหัสผ่านตัวเลข

Dropbox + Google การผสมผสานที่ดีกว่า

Dropbox ยกระดับการทำงานในเนื้อหาร่วมกันขึ้นไปอีกขั้นใน Google Cloud ได้ โดยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานร่วมกันที่มีการใช้สื่อแบบสมบูรณ์ และทำให้ขั้นตอนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ Google มีความคล่องตัวมากขึ้น
มีคนกำลังดูไฟล์ต่างๆ ในบัญชี Dropbox ของตนอยู่

ใช้ Dropbox ร่วมกับ

ดูว่า Dropbox มีประสิทธิภาพในการส่งมอบมากขึ้นได้อย่างไร

ทำงานได้ดีขึ้นด้วย Dropbox