Skip to content (Press Enter)

วิธีกู้คืนไฟล์จากบัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วใน Windows 10 และทำให้แน่ใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการทำเรื่องใหญ่ที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ เช่น การลบโปรไฟล์ผู้ใช้ออกจากพีซีของคุณ แล้วพบว่าไฟล์สำคัญไฟล์ส่วนหายไปพร้อมกับบัญชีด้วย เรียนรู้วิธีกู้คืนไฟล์จากบัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกได้ในคู่มือที่เป็นประโยชน์นี้

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dropbox Backup
คนที่กำลังสงสัยว่าจะกู้คืนไฟล์จากบัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วได้อย่างไร

เมื่อเร็วๆ นี้คุณเพิ่งลบโปรไฟล์ผู้ใช้ไปแล้วพบว่าคุณจำเป็นต้องเข้าถึงไฟล์ในนั้นใช่หรือไม่ คุณอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดใจได้ แต่ไฟล์ของคุณไม่ได้หายไปเลยตลอดกาล

ไม่ว่าจะลบไฟล์โดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ เราก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณในการกู้คืนไฟล์จากโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ลบไปแล้วใน Windows 10 ยิ่งไปกว่านั้น เรายังแสดงให้คุณเห็นวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกโดยใช้มาตรการการป้องกันง่ายๆ ไม่กี่ข้อ

วิธีกู้คืนไฟล์จากโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ลบไปแล้วใน Windows 10 ด้วยตนเอง

ในการกู้คืนไฟล์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องเข้าใจวิธีกู้คืนข้อมูลที่สูญหายของคุณด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม มีนัยบางประการของโซลูชันการกู้คืนข้อมูลประเภทนี้ซึ่งคุณควรทราบก่อนการเริ่มต้นใช้งาน

คำเตือน: ในโซลูชันนี้คุณจำเป็นต้องเข้าถึง Registry ของคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อกู้คืนบัญชีผู้ใช้ โดยควรดำเนินงานแก้ไขไฟล์ Windows Registry ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไฟล์ Registry ที่เสียหายอาจทำให้อุปกรณ์ของคุณใช้งานไม่ได้และจำเป็นต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ทั้งหมดหรืออาจทำให้ข้อมูลสูญหายได้ โปรดดำเนินการโดยใช้ความระมัดระวังอย่างสูง

ขั้นตอนที่เราสรุปไว้ด้านล่างนี้มีไว้เพื่อเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น และคุณควรดำเนินการต่อไปหากคุณสะดวกใจเท่านั้น แม้ว่าจะฟังดูน่ากลัวแต่ไม่ต้องกังวลไป เราจะคอยแนะนำคุณทีละขั้นตอนตลอดกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ให้ใช้ความระมัดระวังและพิจารณาทำการสำรองข้อมูลอุปกรณ์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 1: หาค่าระบุการรักษาความปลอดภัย (SID) สำหรับโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณ

ขั้นตอนแรกคือการค้นหา SID ของคุณซึ่งจะช่วยระบุไฟล์ที่สูญหายใน Registry ของคอมพิวเตอร์ของคุณ

  1. เปิดเมนูเริ่มต้นบนเดสก์ท็อปของคุณและค้นหา “cmd”
  2. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่แอปพลิเคชันพรอมต์คำสั่งและเลือก “เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ”
  3. พิมพ์ “whoami /user” (โดยไม่ต้องใส่เครื่องหมายอัญประกาศ) ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้นแล้วกดปุ่ม Enter/Return
  4. โดยจะเป็นการสร้างตารางที่มีชื่อผู้ใช้ของคุณอยู่ในคอลัมน์ด้านซ้าย และค่าระบุการรักษาความปลอดภัย (SID) อยู่ในคอลัมน์ด้านขวา
  5. จดบันทึก SID ของคุณไว้ ซึ่งจะเป็นชุดตัวเลขที่มีลักษณะดังนี้:
    S-1-5-21-0123456789-0123456789-012345678-0123

ขั้นตอนที่ 2: เข้าถึงไฟล์ Windows Registry ของคอมพิวเตอร์ของคุณ

เมื่อคุณได้ SID มาแล้วก็ถึงเวลาเข้าไปใน Registry และใช้ค่านี้ในการค้นหาโปรไฟล์ผู้ใช้ที่หายไป 

  1. เปิดเมนูเริ่มต้นบนเดสก์ท็อปของคุณและค้นหา “regedit”
  2. กด Enter เพื่อเปิด Registry Editor ของคอมพิวเตอร์ของคุณ
  3. ไปที่โฟลเดอร์ต่อไปนี้ โดยเปิดทีละโฟลเดอร์:
    HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\ProfileList
  4. ในโฟลเดอร์นี้ คุณควรจะเห็น SID ของโปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณซึ่งคุณจดบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ โดยอาจปรากฏขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้ง

ขั้นตอนที่ 3: กู้คืนโปรไฟล์ผู้ใช้ของ Windows และไฟล์ที่ลบไปแล้ว

เมื่อเจอโฟลเดอร์ที่มีข้อมูลที่หายไปแล้ว เราก็พร้อมที่จะเริ่มต้นการกู้คืน

ในส่วนนี้ เรามีโซลูชันให้สองวิธี แต่ละวิธีมีไว้สำหรับแต่ละสถานการณ์ที่คุณอาจพบในโฟลเดอร์ของคุณเอง มีเพียงโซลูชันเดียวเท่านั้นที่จะใช้กับคุณได้

อย่าลืมทำตามขั้นตอนต่างๆ อย่างระมัดระวังและตรวจสอบอีกครั้งว่าคุณได้เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกต้องก่อนจะดำเนินการใดๆ

หากคุณเจอสองโฟลเดอร์ที่มี SID ของคุณ

  1. ดูทั้งสองโฟลเดอร์ คุณจะเห็นว่าในโฟลเดอร์หนึ่งมีการลงท้ายด้วยนามสกุลไฟล์ “.bak” และอีกโฟลเดอร์ไม่มี
  2. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่โฟลเดอร์ซึ่งไม่ได้ลงท้ายด้วย “.bak” แล้วคลิกลบ
  3. คลิกใช่เพื่อยืนยัน
  4. ปิด Registry Editor และรีสตาร์ทพีซีของคุณ
  5. บัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วของคุณควรจะกลับมาและมีการกู้คืนอย่างสมบูรณ์ รวมถึงไฟล์ในบัญชีนั้นด้วย

หากมีเพียงโฟลเดอร์เดียวที่มี SID ของคุณ

  1. ค้นหาโฟลเดอร์ที่ตรงกับ SID ของคุณและตรวจสอบว่าลงท้ายด้วยนามสกุลไฟล์ “.bak” หรือไม่
  2. หากใช่ ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่โฟลเดอร์แล้วคลิกเปลี่ยนชื่อ
  3. ลบอักขระ “.bak” ออกจากชื่อไฟล์รวมถึงจุดด้วย แล้วกด Enter เพื่อยืนยัน
  4. ปิด Registry Editor และรีสตาร์ทพีซีของคุณ
  5. บัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วของคุณควรจะกลับมาและมีการกู้คืนอย่างสมบูรณ์ รวมถึงไฟล์ในบัญชีนั้นด้วย

ตอนนี้คุณสามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ที่ลบไปก่อนหน้านี้และทำสำเนาไฟล์ที่คุณต้องการกู้คืนได้

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลพีซีของคุณเพื่อให้กู้คืนบัญชีและไฟล์ได้อย่างง่ายดาย

บอกได้เลยว่าขั้นตอนที่เราได้สรุปไว้ข้างต้นเป็นขั้นตอนทางเทคนิค และเป็นสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่อยากลองทำก็ต่อเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังซึ่งไม่มีโซลูชันอื่นที่ช่วยได้แล้ว

คงจะดีใช่ไหมหากมีวิธีหลีกเลี่ยงการต้องใช้ความพยายามและเผชิญกับความเครียดทั้งหมดนั้นได้ตั้งแต่ต้น

ข่าวดีก็คือมีวิธีที่ง่ายกว่านี้อยู่เมื่อใช้ Dropbox Backup

Dropbox Backup คือโซลูชันการสำรองข้อมูลบนคลาวด์โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าระบบจะคัดลอกการบันทึกอุปกรณ์ บัญชีผู้ใช้ และข้อมูลของคุณไปยังคลาวด์เป็นประจำ โดยสามารถกู้คืนข้อมูลสำรองนี้ได้ทุกเมื่อเพียงไม่กี่คลิก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั้งหมดหรือเพียงแค่บางส่วนที่คุณต้องการ

เนื่องจากมีการจัดเก็บข้อมูลสำรองไว้บนคลาวด์โดยอัตโนมัติ จึงไม่ทำให้กินพื้นที่บนฮาร์ดไดรฟ์จริง หรือทำให้คุณต้องใช้เวลาไปกับการสำรองข้อมูลด้วยตนเอง นอกจากนี้คุณยังสามารถกู้คืนไฟล์และข้อมูลของคุณได้จากทุกที่ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องกู้คืนข้อมูลไปยังอุปกรณ์ดั้งเดิมด้วยซ้ำ

ข้อความแจ้งจาก Dropbox Backup ที่ถามว่าคุณต้องการเก็บไฟล์ที่สำรองข้อมูลไว้บนคอมพิวเตอร์ที่เลือกหรือไม่ เคอร์เซอร์เมาส์ที่อยู่เหนือปุ่มที่มีข้อความว่า “ยืนยัน”

ปกป้องบัญชีผู้ใช้และไฟล์ของคุณเลยวันนี้ด้วย Dropbox Backup

เมื่อคุณกู้คืนไฟล์จากบัญชีผู้ใช้ที่ลบไปแล้วได้ การปกป้องข้อมูลของคุณด้วย Dropbox Backup ก็เป็นเรื่องง่าย