Skip to content (Press Enter)

วิธีเปลี่ยน PDF ให้เป็นแบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลได้พร้อมช่องกรอกข้อความที่แก้ไขได้

PDF ทำให้การแบ่งปันเอกสารที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเป็นเรื่องง่าย ด้วยการจัดรูปแบบที่ล็อกเอาไว้ จึงไม่สามารถแก้ไขได้โดยบังเอิญ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณจำเป็นต้องแก้ไขอะไรบางอย่างจริงๆ ในคู่มือนี้ เราจะอธิบายวิธีแปลงไฟล์ PDF ที่มีอยู่ให้เป็นแบบฟอร์มที่มีช่องกรอกข้อมูลที่แก้ไขได้ ซึ่งแบ่งปันได้อย่างง่ายดายด้วย Dropbox

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox
เอกสาร PDF ที่มีช่องกรอกข้อมูลแบบฟอร์มที่แก้ไขได้

PDF เป็นรูปแบบไฟล์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีความสามารถในการล็อกทั้งเนื้อหาและการจัดรูปแบบของเอกสาร พูดง่ายๆ ก็คือ ความสามารถนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ที่ดูไฟล์ทำการแก้ไขเพิ่มเติมได้

PDF ไม่เพียงแต่เป็นรูปแบบที่เหมาะจัดทำเอกสาร โบรชัวร์ และรายงานฉบับสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นรูปแบบทั่วไปสำหรับการแบ่งปันแบบฟอร์มอีกด้วย

ในอดีตหากคุณต้องการกรอกแบบฟอร์ม PDF คุณมักจะต้องพิมพ์เอกสารนั้นออกมา กรอกด้วยมือ สแกนเอกสารที่กรอกเสร็จแล้ว จากนั้นก็ทำการส่งต่อไปตามจำเป็น แต่เนื่องด้วยความก้าวหน้าของแอปพลิเคชันการแก้ไข PDF ในปัจจุบัน คุณจึงสามารถสร้าง PDF ที่มีช่องกรอกข้อมูลที่แก้ไขได้ ซึ่งสามารถกรอกและส่งคืนกลับมาได้โดยไม่ต้องพิมพ์เอกสารออกมาแต่แรก

ดังนั้น หากคุณมี PDF ที่มีช่องกรอกข้อมูลแบบธรรมดาและไม่สามารถแก้ไขได้ล่ะ คุณจะแปลง PDF นั้นให้เป็นแบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลได้ได้อย่างไร ในคู่มือนี้ เราจะแนะนำขั้นตอนต่างๆ ให้กับคุณ และแสดงให้เห็นวิธีที่ Dropbox สามารถทำให้การส่งและรับเอกสาร PDF ที่แก้ไขได้นั้นง่ายดายกว่าที่เคย โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลเลยด้วยซ้ำ

แปลง PDF เป็นแบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลได้ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันของ Adobe Acrobat และ Dropbox

วิธีที่ง่ายที่สุดในการแปลง PDF ให้เป็นแบบฟอร์มที่มีช่องกรอกข้อความที่แก้ไขได้คือใช้ Adobe Acrobat และด้วยการผสานการทำงานร่วมกันของแอป Dropbox คุณจึงสามารถแก้ไข PDF ของตนเองได้โดยตรงจากบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์

เมื่อมี Adobe Acrobat ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Dropbox ของตนเอง คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้อย่างง่ายดาย:

  • ทำงานได้ทุกที่ โดยเข้าถึงและแก้ไข PDF ของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ
  • ใช้งานบนมือถือ ซึ่งคุณยังสามารถเข้าถึง PDF ในบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox ได้ผ่านทางแอป Adobe Acrobat บนสมาร์ทโฟน
  • สร้างความปลอดภัย โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเพียงบุคคลที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะเข้าถึง PDF ของคุณได้ ด้วยการป้องกันด้วยรหัสผ่านของ Dropbox และการควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ว่าใครจะสามารถคัดลอก แก้ไข หรือพิมพ์เอกสารของคุณได้บ้าง
เปิดไฟล์ใน Adobe Acrobat ได้โดยตรงจากบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox

วิธีแปลง PDF เป็นแบบฟอร์มที่แก้ไขได้ด้วย Adobe Acrobat

  1. เปิดแอปพลิเคชัน Adobe Acrobat บนเดสก์ท็อปของคุณ
  2. คลิกที่แถบ เครื่องมือ จากนั้นคลิก เตรียมแบบฟอร์ม
  3. เลือก PDF ที่ต้องการแปลงให้เป็นแบบฟอร์มที่แก้ไขได้ หากคุณจัดเก็บ PDF ไว้ในบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox ก็จะสามารถเข้าถึงได้จากในเครื่องนั้นผ่านการซิงค์ไฟล์ของ Dropbox
  4. จากนั้น Adobe Acrobat จะสแกนเอกสารและแปลงกล่องข้อความให้เป็นช่องกรอกข้อมูลแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ
  5. หากคุณต้องการเพิ่มองค์ประกอบเชิงโต้ตอบเพิ่มเติม ให้ใช้แถบเครื่องมือที่ด้านบนเพื่อปรับแต่งหรือเพิ่มรายการใหม่
  6. เมื่อเสร็จแล้ว ให้ บันทึก PDF

เมื่อแปลงไฟล์แล้ว ก็จะสามารถแบ่งปันแบบฟอร์ม PDF ที่กรอกข้อมูลได้ฉบับเสร็จสมบูรณ์นี้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยตรงจากบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox โดยใช้คุณสมบัติการแบ่งปันไฟล์ไฟล์ที่มีมาให้ในตัว หากคุณต้องการส่งสำเนาแทนต้นฉบับ Dropbox Transfer ก็มีโซลูชันที่ง่ายดายให้กับคุณ 

แต่ละวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ว่าใครบ้างที่จะสามารถดูไฟล์ได้ และดูได้นานเท่าใด ซึ่งก็จะช่วยให้คุณรักษาเอกสารสำคัญให้ปลอดภัยได้

แก้ไข PDF ได้โดยตรงจากภายใน Dropbox

แม้ว่า Adobe Acrobat จะเป็นโซลูชันการแก้ไข PDF ชั้นนำของอุตสาหกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในบางครั้ง คุณเพียงแค่ต้องการทำการปรับเปลี่ยนอะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างรวดเร็ว เช่น การลบหน้าเพียงหน้าเดียว หรือการจัดเรียงลำดับหน้าเอกสารของคุณใหม่

โชคดีที่ไม่จำเป็นต้องเปิดแอปพลิเคชันเสมอไป และตอนนี้คุณสามารถทำการแก้ไขง่ายๆ ใน PDF ได้โดยตรงจากภายใน Dropbox

คุณสามารถทำอะไรกับโปรแกรมแก้ไข PDF ที่มีมาให้ในตัวของ Dropbox ได้บ้าง

เพียงแค่เปิด PDF จากภายในบัญชี Dropbox ของตนเอง คุณก็จะสามารถทำการแก้ไขดังต่อไปนี้กับไฟล์ของคุณได้:

  • แทรกหน้าใหม่
  • หมุนหน้า
  • จัดเรียงลำดับหน้าใหม่
  • ลบหน้า
  • กรอกแบบฟอร์มเชิงโต้ตอบ แบบเดียวกับแบบฟอร์มที่คุณเพิ่งสร้างขึ้น!
Dropbox แบ่งปันวิธีที่คุณสามารถแก้ไขไฟล์ PDF ได้ใน Dropbox

วิธีใช้เครื่องมือแก้ไข PDF ของ Dropbox

หากต้องการเริ่มทำการแก้ไข PDF ในบัญชี Dropbox ของคุณ เพียงทำสิ่งต่อไปนี้:

  1. เปิดบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox แล้วไปที่โฟลเดอร์ที่ต้องการ
  2. คลิกที่ชื่อของไฟล์ที่ต้องการแก้ไข
  3. คลิก แก้ไข ที่ด้านบนตัวอย่างไฟล์ ซึ่งจะเปิดโปรแกรมแก้ไข PDF ที่มีมาให้ในตัวขึ้นมา
  4. ทำการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการลบหน้า การหมุนหน้า หรือการกรอกแบบฟอร์ม
  5. คลิก เสร็จสิ้น เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ

คุณสามารถค้นหาเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องมือแก้ไขที่มีมาให้ในตัวได้ในคู่มือจากศูนย์ความช่วยเหลือของเรา 

กรอกข้อมูลใน PDF ที่สามารถแก้ไขได้ได้โดยตรงจากภายใน Dropbox

ตอนนี้คุณสามารถกรอกแบบฟอร์มเชิงโต้ตอบของตนเองได้โดยตรงจากภายใน Dropbox โดยใช้โปรแกรมแก้ไข PDF ที่มีมาให้ในตัว

การกรอกแบบฟอร์มนั้นจะง่ายดายยิ่งกว่าที่เคยโดยไม่ต้องเขียนอีเมลเลย เมื่อรวมเข้ากับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์และความสามารถในการแบ่งปันไฟล์ของ Dropbox สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแบ่งปันลิงก์ที่นำไปยังไฟล์ PDF ของคุณโดยตรง ซึ่งจัดเก็บไว้ในบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ ใครก็ตามที่คุณแบ่งปันลิงก์นั้นด้วยจะสามารถโต้ตอบและกรอกข้อมูลในช่องกรอกข้อมูลแบบฟอร์มที่แก้ไขได้จากภายใน Dropbox ได้โดยตรง แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่มีบัญชีของตนเองก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตามที่คุณต้องการให้กรอกแบบฟอร์ม PDF ก็จะสามารถกรอกข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่ต้องคอยดาวน์โหลดไฟล์เลย!

แบบฟอร์ม PDF ที่มีช่องกรอกข้อมูลที่แก้ไขได้ ซึ่งพร้อมที่จะแบ่งปันผ่านทางบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox

Dropbox ทำให้การแก้ไข PDF ง่ายขึ้น

Adobe Acrobat เมื่อรวมกับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ของ Dropbox แล้ว จะมอบโซลูชันที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนที่สุดสำหรับการแปลง PDF ให้เป็นแบบฟอร์มที่แก้ไขได้

การแบ่งปันแบบฟอร์มเหล่านั้นด้วยพื้นที่จัดเก็บไฟล์ของ Dropbox และให้ผู้รับได้กรอกข้อมูลจะง่ายดายมากกว่าที่เคย โดยไม่ต้องดาวน์โหลดอะไรเลย