ในรายงาน State of the CIO ปี 2018 International Data Corporation คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลจะมีมูลค่าเกิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2019 นอกจากนี้ 40% ของการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีทางธุรกิจทั้งหมดจะใช้ไปกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลโดยตรง
ความไร้ประสิทธิภาพและความซ้ำซ้อนของงานเอกสารทั้งหมดยังคงเป็นภาระอันหนักอึ้งของบุคลากร eSignatures จะมอบชัยชนะที่ง่ายดายเพื่อแสดงผลกระทบและผลตอบแทนจากการลงทุนของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลในกระบวนการที่สำคัญต่อธุรกิจ
คำถามไม่ใช่ว่าองค์กรของคุณควรนำโซลูชัน eSignature มาใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยหรือไม่ แต่คือตัวเลือกการผสานการทำงาน eSignature ใดที่เหมาะกับองค์กรของคุณเมื่อคุณพร้อมที่จะดำเนินการเปลี่ยนแปลง
ตัวเลือกของคุณในการนำ eSignature มาใช้งาน
เราคงพูดว่าเราเสียใจที่เห็นตัวเลือก eSignature เกิดขึ้นมามากมายได้ไม่เต็มปาก แต่แหม กว่าจะรู้ว่าโซลูชันใดเหมาะกับคุณก็ชวนให้แสนสับสนเหลือเกินในช่วงที่เพิ่งเริ่มต้น!
ในทีม Dropbox Sign เราเป็นกลุ่มของผู้หลงใหลในขั้นตอนการทำงานของ eSignature แต่เราก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเช่นนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เรารวบรวมข้อมูลเบื้องต้นง่ายๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกใช้งาน eSignature ที่เหมาะสมตามความต้องการและความจำเป็นขององค์กรของคุณ และเพื่อเป็นโบนัสสำหรับทุกคนที่อ่านจนจบ เราขอนำเสนอเคล็ดลับที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มใช้งาน eSignature ของคุณเพื่อให้มีความยุ่งยากน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
1. ใช้ eSignature กับแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเว็บ
แอปพลิเคชัน eSignature บนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือบนเว็บที่พร้อมใช้งานได้ทันทีนั้นเหมาะสำหรับองค์กรที่ไม่มีความต้องการใช้งาน eSignature ที่มีความซับซ้อน และไม่มีแผนที่จะทำธุรกรรมการลงนามจำนวนมาก แอป eSignature เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเอกสารที่มีข้อมูลบนหน้ากระดาษด้านเดียว เช่น สัญญาการขาย แบบฟอร์มของฝ่ายทรัพยากรบุคคล และเอกสารในทำนองเดียวกัน
เนื่องจากไม่ได้ผสานรวมลึกเข้ากับขั้นตอนการทำงานหรือเทคโนโลยีของคุณ แอป eSignature จึงสามารถใช้งานได้ทันทีที่คุณฝึกอบรมพนักงานเรียบร้อย แม้ว่าโซลูชันนี้จะหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรด้านไอทีหรือด้านการพัฒนาอยู่ในมือ แต่ก็หมายความว่าคุณกำลังละทิ้งความสามารถในการปรับแต่งขั้นตอนการทำงานเพื่อเพิ่มการสร้างแบรนด์หรือผสานการทำงานเข้ากับกระบวนการที่คุณมีอยู่
เราสร้างแอป Dropbox Sign (เดิมคือ HelloSign) ขึ้นให้กับทีมที่ขยาดกับการรับมือขั้นตอนอันยุ่งยาก และต้องการโซลูชัน eSignature ที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนและรวดเร็ว แม้ว่า Dropbox Sign นั้นจะตั้งค่าได้ง่ายและใช้งานได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโซลูชันนี้จะสูญเสียประสิทธิภาพที่อยู่ภายในไป
เครื่องมือการจัดการทีมระดับธุรกิจช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถเพิ่ม ลบ และอัพเกรดสมาชิกในทีมได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถลงนามในเอกสารและขอลายเซ็นจากผู้คนต่างๆ ได้มากถึง 20 คน รวมทั้งดูความคืบหน้าของเอกสารของตนเองได้ตลอดการดำเนินการ คุณยังสามารถทำได้แม้กระทั่งสร้างแม่แบบของตนเองเพื่อประหยัดเวลา และคลายความเครียดจากการที่ต้องลงนามซ้ำๆ ได้อีกด้วย!
และสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มผู้ใช้มากกว่าสิบราย เรายังมี Dropbox Sign Premium ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม eSignature ที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้
2. ฝัง eSignature ด้วย API
หากต้องการผสานประสบการณ์ eSignature ที่ขัดเกลามาอย่างดีลงในขั้นตอนการทำงาน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของคุณอย่างราบรื่น เราขอแนะนำ API สำหรับ eSignature API สำหรับ eSignature จะเพิ่มประสิทธิภาพโดยการช่วยให้ธุรกิจสร้างกระบวนการที่มาจากระบบให้กับเอกสารที่มีความซับซ้อน เช่น การสมัครสินเชื่อ การเคลมประกัน การจำนอง การสร้างบัญชี และอื่นๆ
API สำหรับ eSignature เหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่มีขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ซึ่งมีปริมาณธุรกรรมปานกลางถึงสูง โดยมักจะเสนอการปรับแต่งขั้นตอนการทำงานขั้นสูงเพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งและผสานรวมฟังก์ชันการทำงานของ API เหล่านั้นเข้ากับกระบวนการที่เฉพาะตัวของคุณได้ การปรับแต่งในระดับนั้นจะขยายไปสู่การสร้างแบรนด์และเส้นทางของผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสร้างประสบการณ์ที่ช่วยให้พนักงานอยากนำไปใช้งาน เช่นเดียวกับสร้างความภักดีของลูกค้า!
แม้ว่า API สำหรับ eSignature จะไม่ใช่โซลูชันที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เหมือนกับโซลูชันแบบเดียวกันที่ทำงานบนเว็บ แต่ผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือก็ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ เอกสารประกอบที่ชัดเจน และการสนับสนุนที่ดำเนินการโดยนักพัฒนา เพื่อช่วยให้ทรัพยากรในการพัฒนาของคุณส่งผลให้เกิดการผสานการทำงานที่เป็นไปอย่างราบรื่น
ในฐานะบริษัท API แห่งแรก เราให้ความสำคัญกับการทำให้ API ของ Dropbox Sign ง่ายต่อการนำไปใช้ ไม่ยุ่งยาก เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติมากมาย และปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ เราไม่เพียงแต่ต้องการให้ลูกค้าของเราใช้งาน แต่ยังต้องการให้เพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์อันยอดเยี่ยมทั้งหมด เช่น การปรับแต่งที่ไร้ที่ติ การบำรุงรักษาที่ง่ายดาย คุณสมบัติด้านกฎหมายและการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ การตั้งค่าที่รวดเร็ว และอื่นๆ อีกมากมาย
ไม่แน่ใจว่าแอปหรือ API จะเหมาะสำหรับคุณมากกว่ากันใช่ไหม ติดต่อทีม Dropbox Sign ที่พร้อมช่วยเหลือและมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเลยวันนี้ เพื่อค้นหาว่าระบบ eSignature ใดของเราเหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
3. เพิ่มการผสานการทำงานและส่วนขยายของ eSignature ให้กับแอปต่างๆ ที่คุณกำลังใช้งาน
การผสานการทำงานและส่วนขยายของ eSignature จะช่วยให้คุณทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสามารถย้ายข้อมูลระหว่างบริการต่างๆ และทำให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปแบบอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องออกจากแอปที่กำลังใช้งานอยู่ ดูว่า Dropbox ช่วยให้ทุกอย่างง่ายดายได้เพียงใด:
ด้วยส่วนขยายของ eSignature คุณจะสามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานในระบบของธุรกิจที่พนักงานใช้งานอยู่แล้วได้ เมื่อนำไปใช้กับขั้นตอนการทำงานที่ต้องพบปะกับผู้ใช้ของคุณ ก็จะสามารถช่วยให้ลูกค้าทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกพึงพอใจ!
เราชื่นชอบในการสร้างการผสานการทำงานและส่วนขยายที่ทำให้การลงชื่อเข้าใช้เครื่องมือใดก็ตามที่คุณกำลังใช้งานเป็นเรื่องง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดูรายการแอปที่ทำงานร่วมกันได้ทั้งหมดที่นี่!
วิธีการนำโซลูชัน eSignature ของคุณไปใช้
ไม่ว่าคุณจะเลือกนำโซลูชันใดมาใช้งาน การริเริ่มนำสิ่งใหม่ๆ มาใช้ย่อมมีความท้าทายรออยู่
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา อย่าตั้งคำถามกับการลงทุนใน eSignature แต่ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าระบบ eSignature ของคุณจะได้รับการตั้งค่าเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
เลือกพันธมิตรที่ใช่อย่างรอบคอบ
การนำ eSignature ไปใช้ในกระบวนการทำงานของคุณอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ ดังนั้นคุณอยากดำเนินการไปพร้อมความเปลี่ยนแปลงนี้กับผู้ให้บริการที่เสนอให้หาคำตอบในหน้าคำถามที่ถามบ่อย หรืออยากจะร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญซึ่งเคยทำสิ่งนี้มาก่อน และจะคอยอยู่เคียงข้างคุณในทุกขั้นตอนกันล่ะ
มองหาพันธมิตรที่จะตอบสนองความต้องการของคุณและยินดีที่จะช่วยคุณพัฒนาแผนงานในแบบของคุณเองเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะนำ eSignature ไปใช้อย่างประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต อันที่จริงแล้ว นี่คือคำถาม 5 ข้อที่คุณควรถามตัวเอง เพื่อช่วยให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกผู้จัดหาบริการ eSignature ที่เหมาะสม
สร้างขั้นตอนการทำงานเฉพาะตัวของคุณ
ซอฟต์แวร์ eSignature นั้นมีประสิทธิภาพ มีโอกาสที่โซลูชันที่คุณเลือกจะมาพร้อมกับตัวเลือกและโอกาสใหม่ๆ ทุกรูปแบบที่คุณไม่เคยมีมาก่อน ให้ใช้เวลาสักระยะเพื่อเรียนรู้และลองใช้คุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อค้นหาวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลทั่วทั้งองค์กรของคุณ
หมั่นฝึกใช้จนชำนาญ
เมื่อคุณคิดว่าตนเองถูกใจกับขั้นตอนการทำงาน eSignature ใหม่นี้แล้ว ก็ถึงเวลาทำการทดสอบ ซอฟต์แวร์ eSignature ของคุณไม่เพียงแต่ควรจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ลูกค้าใช้งานได้ง่ายเท่านั้น แต่ยังควรช่วยประหยัดเวลาให้กับผู้คนในองค์กรของคุณเองที่ใช้ซอฟต์แวร์นั้นด้วย โดยจะต้องสามารถรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมายไว้ควบคู่กันไปด้วย
การทดสอบการประกันคุณภาพนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งหากคุณได้เลือกที่จะผสานการทำงานของโซลูชัน eSignature เข้ากับการกำหนดค่าด้านไอทีของคุณ แน่นอนว่าในอนาคต คุณอาจต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม แต่การใช้กระบวนการ eSignature ใหม่ของคุณผ่านการทดลองใช้งานก่อนการใช้จริงสักเล็กน้อยก็เป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมเริ่มต้นได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งยังเป็นการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นในการนำมาใช้งาน
การนำ eSignature ไปใช้อย่างเหมาะสมนั้นง่ายดายขึ้นได้ด้วย Dropbox Sign
ไม่ว่าคุณจะต้องการความเรียบง่ายของแอป ความสามารถในการปรับแต่งของ API หรือเครื่องมือที่จะส่งมอบประสิทธิภาพที่การผสานการทำงานและส่วนขยายต่างๆ มอบให้ก็ตาม แต่การเลือกวิธีการนำ eSignature ที่เหมาะสมไปใช้ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่ทุกธุรกิจจะต้องทำในระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล
ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไรก็ตาม Dropbox Sign มีตัวเลือกในการนำไปใช้ที่เหมาะสำหรับคุณ และไม่มีตัวเลือกใดที่ละเลยเรื่องการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกำหนด และความสะดวกในการใช้งานเลยแม้แต่ตัวเลือกเดียว
และหากโซลูชันที่คุณเลือกในวันนี้ไม่ใช่โซลูชันที่เหมาะสมเหมือนเดิมภายในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า เราก็พร้อมเสมอ! โซลูชันของเราสามารถปรับขนาดได้ และทีมของเราก็มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนได้เป็นอย่างสูง ลงทะเบียนสำหรับการทดลองใช้ฟรีเลยวันนี้ แล้วพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเอง หากคุณไม่พบสิ่งที่ใช่ เราจะสร้างให้คุณเอง