บริษัท Martin Sign

เริ่มการร่วมทุนครั้งใหม่

หลังทำงานกับร้านป้ายขนาดใหญ่มา 12 ปี Martin Wall ก็ค้นพบว่าเขาชอบป้าย “งานเปิดตัว” เป็นพิเศษ บริษัท Martin Sign ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 ซึ่งทำให้บัณฑิตศิลปกรรมผู้นี้มีโอกาสสร้างป้ายด้วยมือตนเองสำหรับพิพิธภัณฑ์ SF MoMa, บริษัทบริการจองที่อย่าง OpenTable และลูกค้าคนอื่นๆ เป็นครั้งแรกที่ Wall ไม่เพียงมีอิสระในการสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังมีอิสระในการทำธุรกิจของเขาเองในแบบที่เขาต้องการด้วย ในงานก่อนหน้านี้ Wall เสียเวลาอันมีค่าไปกับการใช้ดีวีดีและไดรฟ์ภายนอกเพื่อส่งงานออกแบบให้ลูกค้า แถมเซิร์ฟเวอร์บริษัทเก่าของเขาก็ไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้นัก Wall กล่าวว่า “ทันทีที่ก้าวออกจากพื้นที่บริษัท คุณจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ใดๆ ของคุณได้เลย” สำนักงานแรกของบริษัท Martin Sign เป็น “ตู้เสื้อผ้า” ขนาด 700 ตารางฟุตในเขตมิชชันของซานฟรานซิสโก ที่ซึ่ง Wall และ Matt Cella ผู้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจคอยติดต่อประสานงานให้เข้าใจตรงกันผ่านการสนทนาและอีเมลเป็นประจำ แต่หลังจากที่จ้างนักออกแบบคนแรกของบริษัท การใช้อีเมลก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก การที่ Wall ใช้บัญชี Dropbox ส่วนตัวเพื่อแบ่งปันโครงการศิลปะส่วนตัวของตนเอง ทำให้เขาตัดสินใจหันมาใช้ Dropbox เพื่อจัดเก็บไฟล์ให้เป็นระเบียบในที่ทำงาน เขากล่าวว่า “เราต้องมีความเป็นมืออาชีพ แถมเราก็รู้จักและรัก Dropbox อยู่แล้ว” “เราต้องการลงทุนกับเทคโนโลยีที่ถูกต้องและก้าวให้ทันยุคสมัยอยู่เสมอ”

การทำงานร่วมกันทั้งในและนอกสำนักงาน

ตอนนี้ Martin Sign มีพนักงาน 10 คนและลูกค้ามากกว่า 2,000 ราย และใช้ Dropbox ในกระบวนการออกแบบและติดตั้ง เมื่อต้องรวบรวมไฟล์ออกแบบจากลูกค้า พนักงานจะใช้การขอไฟล์หรือเชิญลูกค้าไปยังโฟลเดอร์ที่แบ่งปัน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจเบเกอรี่ส่งเมนูให้ Martin Sign ทาง Dropbox ซึ่งทำให้พนักงานรู้ว่าพวกเขากำลังทำงานกับไฟล์เวอร์ชันล่าสุดอยู่ได้ง่าย “ลูกค้าจะรู้เลยว่าต้องส่งอาร์ตเวิร์กให้เราทางไหน” Wall กล่าว “หรือเมื่อลูกค้าขอให้เราสร้างปรู๊ฟ พวกเขาก็สามารถตรวจทานและแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวความคิดของเราได้อย่างง่ายดาย” และอาร์ตเวิร์กเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ลูกค้ายังอัพโหลดรูปสถานที่ที่จะวางป้ายด้วย เพื่อให้ผู้ติดตั้งรู้ว่าจะใช้วัสดุอะไร “ต้องทดลองทำหลายแบบทีเดียวกว่าป้ายจะสมบูรณ์แบบ” Wall กล่าว “เรารู้ว่างานเวอร์ชันล่าสุดอยู่ที่ไหนในโฟลเดอร์ Dropbox ของเรา เลยไม่ต้องมัวค้นหาในกล่องอีเมลขาเข้าที่เต็มไปด้วยข้อความ” เมื่อทีมเติบโตขึ้น Dropbox ยังทำให้พนักงานของ Martin Sign ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทำงานจากที่ไหนก็ตาม Wall กล่าวว่านักออกแบบคนหนึ่งได้ย้ายไปวิสคอนซินด้วยเหตุผลเรื่องครอบครัว “Dropbox ทำให้เราสามารถจ้างเขาต่อไปได้เพราะเขาสามารถทำงานจากระยะไกลได้” Wall กล่าว “เหมือนว่าเขาไม่เคยจากไปเลย” เมื่อพนักงานอยู่ในสถานที่ทำงาน พวกเขาสามารถเปิดงานศิลปะจาก Dropbox บนโทรศัพท์ของตนเองได้ และหลังจากที่ผู้รับเหมาทำงานเสร็จ หรือพนักงานออกจากบริษัท Wall จะใช้การโอนย้ายบัญชีในแผงควบคุมของผู้ดูแลทีมเพื่อย้ายไฟล์ในโครงการไปให้สมาชิกในทีมคนใหม่ ด้วยวิธีนี้ ทุกคนจะไม่พลาดข้อมูลใดๆ

ประหยัดเงิน ลงทุนกับการเติบโต

Wall เผยว่า Dropbox ได้ช่วยทำให้ฝันของเขาในการทำธุรกิจของตัวเองเป็นจริง “ผมรู้ว่าเจ้าของธุรกิจมากมายใช้เงินราว $25,000 ไปกับเซิร์ฟเวอร์” เขากล่าว “เราประหยัดเงินจำนวนมหาศาลนั้นได้โดยใช้ Dropbox แทน แถมยังเข้าถึงไฟล์ของเราได้ง่ายดายขึ้นด้วย” Wall กล่าวเสริมว่า Dropbox ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวตามตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ เมื่อเขาเริ่มก่อตั้งบริษัท Martin Sign ขึ้นมา Wall เล่าให้ฟังว่าเขาเน้นงานด้านการสร้างสรรค์ของธุรกิจเป็นหลัก แต่เขาก็บอกว่า Dropbox ได้ช่วยเขาพัฒนาให้บริษัทเป็นนายจ้างและซัพพลายเออร์ที่ดีขึ้น “ด้วยความยืดหยุ่นของ Dropbox ผมสามารถเพิ่มผู้ใช้ได้ทันทีอย่างง่ายดาย หรือทำให้ลูกค้าสะดวกขึ้นโดยการแบ่งปันงานศิลปะในโฟลเดอร์” เขากล่าว “ความสามารถในการปรับขนาดทำให้เราเติบโตเร็วมาก เร็วกว่าที่ผมคิดไว้ว่าธุรกิจขนาดเล็กจะทำได้”