Skip to content (Press Enter)

การประมวลผลระบบคลาวด์คืออะไร

เราล้วนเคยได้ยินคำว่า “คลาวด์” มาก่อน แต่ก็ยังเป็นเรื่องน่าฉงนอยู่สำหรับบางคน เรียนรู้ว่าทำไม “คลาวด์” จึงมีความสำคัญต่อทั้งธุรกิจและบุคคลทั่วไป

รับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์
true

การประมวลผลระบบคลาวด์คืออะไรและทำงานอย่างไร

เป็นไปได้ว่า ถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการบริการประมวลผลระบบคลาวด์ แต่คุณก็คงผ่านการใช้งานคลาวด์มาก่อน

“คลาวด์” นั้นย่อมาจาก “การประมวลผลระบบคลาวด์” ซึ่งหมายถึงงานและการบริการที่มีให้บริการหรือโฮสต์ผ่านอินเทอร์เน็ตแบบจ่ายตามการใช้งาน ผู้คนสามารถจัดเก็บ ใช้งาน และจัดการข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ในระยะหนึ่ง แต่การประมวลผลระบบคลาวด์ทำหน้าที่นี้ในระดับที่ใหญ่กว่ามาก

ก่อนอื่น สิ่งสำคัญที่ต้องชี้แจงคือ คลาวด์ยังต้องมีการใช้องค์ประกอบจริงอยู่ แม้คุณจะไม่ได้บันทึกไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่ไฟล์ดังกล่าวยังจำเป็นต้องเชื่อมอยู่กับฮาร์ดแวร์ที่ไหนสักแห่งในโลก เมื่อคุณอัพโหลดข้อมูลไปยังคลาวด์ผ่านการบริการอย่าง Dropbox ระบบจะส่งไฟล์ผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่จริงและจับต้องได้ ผู้ให้บริการคลาวด์มีเซิร์ฟเวอร์จริงนับร้อยนับพัน ที่รู้จักกันในชื่อ “เซิร์ฟเวอร์ฟาร์ม” ซึ่งตั้งอยู่ในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก

ดังนั้นพูดอย่างง่ายที่สุดได้ว่า คลาวด์คือชุดของกลุ่มเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลที่กระจายอยู่ทั่วโลกที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลได้ ซึ่งหมายความว่า คลาวด์ก็คือหน่วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่คุณสามารถเก็บไฟล์ทั้งหมดไว้ได้ หากใช้คลาวด์ คุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้จากทุกอุปกรณ์ตราบเท่าที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

เมื่อคุณบันทึกไฟล์บนคลาวด์ จะเท่ากับว่าคุณกำลังจัดเก็บไฟล์ดังกล่าวไว้แบบออนไลน์ ใครก็ตามที่มีทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมก็สามารถโฮสต์คลาวด์ของตนเองได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ได้มีค่าใช้จ่ายต่ำอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงการใช้การบริการคลาวด์ เราก็กำลังพูดถึงการบริการระดับสูงที่จัดหาให้โดยผู้ให้บริการอย่าง Dropbox

เราขอยกไฟฟ้ามาเป็นตัวอย่าง ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายสูงและต้องมีการบำรุงรักษามากมายหากจะใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนตัวในบ้านของคุณ เราจึงมีผู้ให้บริการด้านพลังงานซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้แทน โดยเราทุกคนเพียงแค่ชำระค่าบริการเฉพาะในส่วนที่เราใช้ ในแง่เดียวกัน การยอมให้ผู้ให้บริการคลาวด์โฮสต์และจัดเก็บข้อมูลของคุณได้นั้นมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากว่า แทนที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานของคุณเอง

ฟังก์ชันอื่นๆ นอกเหนือจากบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์

พูดง่ายๆ ที่สุดก็คือ คลาวด์เป็นโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัล แต่ก็มีการบริการบนคลาวด์แบบอื่นอีกมากมาย คุณสามารถแบ่งการประมวลผลระบบคลาวด์ออกเป็นฟังก์ชันหลักสามอย่าง ได้แก่ โมเดลการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS), การให้บริการด้านแพลตฟอร์ม (PaaS) และการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS)

  • การให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) หมายถึงผู้ให้บริการคลาวด์ที่มอบพื้นที่เซิร์ฟเวอร์สำหรับทุกๆ อย่างตั้งแต่พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไปจนถึงการโฮสต์เว็บ ในกรณีนี้ คุณจะยังคงจัดการและรักษาข้อมูล เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันได้ ในขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์ให้คุณเช่าทรัพยากรประมวลผลสำหรับการดำเนินการดังกล่าว

การใช้ Dropbox สำหรับพื้นที่จัดเก็บไฟล์เป็นตัวอย่างหนึ่งของ IaaS คุณสามารถเข้าถึง แก้ไข และเพิ่มข้อมูลได้ตามต้องการ ในขณะที่ Dropbox ให้บริการเซิร์ฟเวอร์เพื่อโฮสต์ข้อมูลดังกล่าว เกือบทุกเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมต่างก็โฮสต์ผ่านคลาวด์ด้วยโมเดล IaaS

  • การให้บริการด้านแพลตฟอร์ม (PaaS) นั้นคล้ายกับ IaaS แต่ให้การควบคุมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแก่ผู้ให้บริการคลาวด์ ในอดีต การพัฒนาซอฟต์แวร์และการทดสอบภายในระบบเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งในแง่ของเวลา เงิน และพื้นที่ PaaS ให้บริการแพลตฟอร์มเสมือนสำหรับการพัฒนาและการทดสอบแบ็กเอนด์ โดยให้กรอบการทำงานเสมือนแก่โปรแกรมเมอร์เพื่อใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ออนไลน์ได้ โดยที่ผู้ให้บริการยังคงจัดการกับเซิร์ฟเวอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดอยู่ ดังนั้น แทนที่จะเสี่ยงต่อการสูญเสียจากการพัฒนาและการทดสอบในสำนักงาน โมเดล PaaS จึงเสนอโซลูชันเสมือนให้กับ DevOps
  • การให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) หมายถึงซอฟต์แวร์ใดก็ตามที่ทำงานผ่านคลาวด์ ยกตัวอย่างเช่น Dropbox Sign หากใช้แอปพลิเคชันระบบคลาวด์นี้ คุณจะสามารถลงนามในเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายได้ทางออนไลน์ แทนที่จะใช้ปากกาและกระดาษ โดยคุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้ตามต้องการจากทุกอุปกรณ์ อีกตัวอย่างหนึ่งของ SaaS คือแอปพลิเคชันบนเว็บอย่าง Grammarly ซึ่งทำงานออนไลน์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของคุณได้โดยตรง

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ที่สุดคือ โมเดล IaaS ให้การควบคุมทรัพยากรของคุณมากที่สุดและรองรับผู้ดูแลระบบสำหรับการโฮสต์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล โมเดล PaaS ให้การควบคุมน้อยกว่าและรองรับนักพัฒนาสำหรับการสร้าง ส่วนโมเดล SaaS จะให้การควบคุมน้อยที่สุดและรองรับผู้ใช้ทั่วไป

ระบบคลาวด์ประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง

มีสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์พื้นฐานสี่ประเภทที่รองรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทุกแบบได้

คลาวด์สาธารณะหมายถึงการบริการคลาวด์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud และ Google Drive, iCloud และ Dropbox ล้วนเป็นการบริการคลาวด์สาธารณะทั้งหมด ใครก็ตามที่ใช้ Dropbox จะเท่ากับว่าไปเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ของ Dropbox บางส่วน คลาวด์สาธารณะเป็นสภาพแวดล้อมที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งคล้ายกับสำนักงานขนาดใหญ่ แต่ผู้ใช้ปลายทางทุกคนจะมีโต๊ะและตู้เก็บข้อมูลที่ปลอดภัยเป็นของตัวเอง พื้นที่เฉพาะที่มีความปลอดภัยนี้เรียกอีกอย่างว่า “เครื่องเสมือน” การจำลองเสมือนช่วยให้ผู้ใช้ปลายทางแต่ละคนมีเครื่องเสมือนของตัวเองในพื้นที่แยกที่มีความปลอดภัยบนเซิร์ฟเวอร์จริงอันเดียวกันได้ นอกเหนือจากเครื่องเสมือนแล้ว ก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์เสมือนด้วย จึงทำให้การจำลองเสมือนเป็นการใช้ฮาร์ดแวร์จริงในเซิร์ฟเวอร์ได้ดีที่สุด ประสิทธิภาพการทำงานนี้ช่วยให้ทุกคนใช้การบริการคลาวด์ตามต้องการได้ในราคาต่ำ 

คลาวด์ส่วนตัวนั้นแตกต่างออกไปอย่างมาก เนื่องจากเครื่องเสมือนและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ทั้งหมดมีไว้ให้บริการลูกค้าเพียงคนเดียว โดยคุณจะยังโฮสต์ทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ตได้ แต่เซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ข้อมูลของคุณจะเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียว บางคนอาจเลือกใช้คลาวด์ส่วนตัวเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีก ในขณะที่บางคนอาจจำเป็นต้องใช้คลาวด์ส่วนตัวเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน

คลาวด์แบบไฮบริดใช้ประโยชน์จากทั้งเซิร์ฟเวอร์ภายในและเซิร์ฟเวอร์คลาวด์สาธารณะ คุณจึงสามารถเก็บเอกสารที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าไว้ในคลาวด์ส่วนตัว แต่เก็บอย่างอื่นไว้บนคลาวด์สาธารณะได้

มัลติคลาวด์คือการที่ธุรกิจใช้แพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งแตกต่างจากการใช้คลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์สาธารณะร่วมกันอย่างแบบไฮบริด โซลูชันมัลติคลาวด์มักเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์หลายรายนำเสนอฟังก์ชันที่แตกต่างกัน โดยที่ธุรกิจหนึ่งอาจต้องการใช้ฟังก์ชันดังกล่าวทั้งหมด

วิธีที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ระบบคลาวด์

เมื่อพูดถึงธุรกิจ ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์นั้นเป็นมากกว่าบทบาทในฐานะโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้งานง่าย การประมวลผลระบบคลาวด์ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิผล ประสิทธิภาพ การเติบโต และการจัดระเบียบสถานที่ทำงานที่ทันสมัย ธุรกิจจะได้รับประโยชน์ต่อไปนี้จากการใช้การประมวลผลระบบคลาวด์

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: การทำทุกอย่างที่สำนักงานอาจมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์ไอทีในสำนักงานเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อระบบคลาวด์ เนื่องจากเป็นการบริการแบบจ่ายตามการใช้งาน การประมวลผลระบบคลาวด์จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในส่วนของฮาร์ดแวร์ การจ้างพนักงาน และการใช้พลังงาน นอกจากนี้ การใช้เวลาน้อยลงในการจัดการปัญหาด้านไอทีก็ทำให้คุณมีเวลาในการมุ่งเน้นไปยังเป้าหมายของคุณมากขึ้น
  • กู้คืนจากความเสียหาย: การสํารองข้อมูลไฟล์และข้อมูลที่สําคัญทั้งหมดของคุณไปยังคลาวด์จะช่วยเพิ่มการป้องกันที่สำคัญ คุณจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากหากเก็บทุกอย่างไว้ในที่เพียงแห่งเดียว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไฟฟ้าดับกะทันหัน ไปจนถึงการโจมตีของมัลแวร์ ก็อาจทำให้คุณไม่เหลืออะไรเลยได้ทุกเมื่อ ดังนั้น คลาวด์จึงให้การบริการที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยการสำรองข้อมูลของคุณไว้บนเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ในหลายๆ ที่
  • ปกป้องและรักษาความปลอดภัยข้อมูล: ในทำนองเดียวกัน และถึงแม้จะขัดกับความเชื่อของบางคน การบริการประมวลผลระบบคลาวด์มีการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ยอดเยี่ยมแก่ข้อมูลส่วนตัวของคุณ คุณอาจคิดว่าการเก็บทุกอย่างไว้ในที่ที่คุณสามารถมองเห็นได้นั้นปลอดภัยกว่า แต่คลาวด์ก็เป็นเหมือนกับตู้นิรภัยของธนาคาร ผู้ให้บริการคลาวด์จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลของคุณเป็นอันดับแรก ซึ่งจะมีการเข้ารหัสทั้งหมด โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณจะสามารถปรับการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ของคุณเองได้ เช่นเดียวกับตู้นิรภัยของธนาคารซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บรักษาของมีค่า คลาวด์ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุด
  • ความสามารถในการปรับขนาด: การประมวลผลระบบคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเติบโตหรือถดถอยลงได้ในบางกรณี ยิ่งธุรกิจของคุณมีขนาดใหญ่มากเท่าไร คุณจะต้องมีพื้นที่ เวลา และเงินในการดำเนินงานมากเท่านั้น การใช้คลาวด์ตามที่จำเป็นได้นั้นก็ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนที่สนับสนุนการเติบโตนี้ได้ ในทางกลับกัน หากธุรกิจถดถอยลง คุณก็อุ่นใจได้ว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์หรือทรัพยากรที่ไม่ต้องการอีกต่อไป หากใช้การบริการประมวลผลระบบคลาวด์ คุณจะต้องจ่ายให้กับสิ่งที่คุณใช้เท่านั้น
  • ความยืดหยุ่น: เนื่องจากคุณจัดเก็บและดำเนินการทุกอย่างผ่านคลาวด์ คุณจึงมีความยืดหยุ่นในการทำงานจากทุกที่ในโลก ในขณะที่แนวคิดด้านสถานที่ทำงานแบบดั้งเดิมยังคงมีการเปลี่ยนแปลงตลอด การประมวลผลระบบคลาวด์ได้เข้ามามีบทบาทพื้นฐานในการช่วยให้บริษัทต่างๆ ทำงานแบบเสมือนได้ นอกจากนี้ การประมวลผลระบบคลาวด์ยังช่วยในเรื่องการเชื่อมต่อ ทำให้สามารถเข้าถึงไฟล์และข้อมูลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อีกด้วย
  • การทำงานร่วมกัน: ในแง่เดียวกัน คุณไม่เพียงแต่จะสามารถบันทึกไฟล์ของคุณได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถสร้างและแก้ไขไฟล์บนคลาวด์ซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย การประมวลผลระบบคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถให้ทีมงานสิบคนทำงานจากสถานที่ต่างๆ ในเอกสารเดียวกันได้ ความสามารถนี้ทำให้การจัดระเบียบและการจัดการทรัพยากรภายในทีมเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย

ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์สำหรับการใช้งานส่วนตัว

นอกเหนือจากประโยชน์ในสำนักงานแล้ว ยังมีวิธีอีกมากมายที่คุณจะได้รับประโยชน์จากการใช้โซลูชันคลาวด์ที่บ้าน ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถประหยัดได้ หากคุณไม่ได้ใช้บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์อยู่ในขณะนี้ ไฟล์ส่วนใหญ่ของคุณอาจบันทึกไว้บนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของคุณ หากคุณไม่มีที่ว่างเหลืออยู่บนอุปกรณ์นั้น คุณก็อาจเลือกใช้ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก และถ้าหากพื้นที่ดังกล่าวเต็มแล้ว คุณก็จะหาซื้อฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกไดรฟ์ที่สองและฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกอื่นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้การหาเอกสารเก่าๆ ที่คุณต้องการโดยด่วนนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมากในทันที

การบันทึกไฟล์ทั้งหมดของคุณไว้ในพื้นที่เสมือนแห่งเดียวที่ไม่กินพื้นที่ส่วนตัวของคุณเลยนั้น จะช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบและควบคุมทุกอย่างได้ พร้อมกับให้คุณได้ประหยัดเงินในการซื้อฮาร์ดแวร์ และยังช่วยปรับปรุงความสามารถในการประมวลผลของระบบปฏิบัติการของคุณได้อีกด้วย เนื่องจากคุณได้ย้ายไฟล์จำนวนมากของคุณไปไว้บนคลาวด์แล้ว

การแบ่งปันกับคนที่คุณรักจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น คุณจะสามารถตั้งค่าอัลบั้มรูปภาพร่วมกันที่ทุกคนในครอบครัวสามารถเข้าถึงได้

เหตุนี้จึงทำให้ Dropbox สร้างพื้นที่งานที่ชาญฉลาดแห่งแรกของโลกขึ้นมา การเชื่อมโยงเนื้อหาและเครื่องมือที่คุณใช้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน จะทำให้สามารถเข้าถึงทุกอย่างได้อย่างง่ายดายในแอปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Dropbox ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์ม แอป และเนื้อหาอีกต่อไป โดยคุณสามารถใช้งานพื้นที่งานที่ชาญฉลาดได้จากที่แห่งเดียว ทำให้มีการจัดการด้านไอทีที่มีความยืดหยุ่น

ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์นั้นเป็นที่ประจักษ์ไม่ว่าคุณจะใช้งานที่บ้านหรือที่ทำงาน เพราะคลาวด์จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ปรับปรุงการจัดระเบียบ ยกระดับการทำงานร่วมกัน และลดค่าใช้จ่าย ไปพร้อมๆ กับรักษาความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลของคุณได้

คำถามที่ถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับคลาวด์

บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบไฮบริดคืออะไร

บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบไฮบริดจะรวมการใช้เซิร์ฟเวอร์คลาวด์ทั้งภายในและภายนอกเข้าไว้ด้วยกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บไฟล์ เมื่อจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ที่เป็นความลับ การเก็บไฟล์เหล่านี้ไว้ภายในองค์กรอาจจะเป็นประโยชน์ ในขณะที่ไฟล์อื่นๆ สามารถจัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์สาธารณะได้ เมื่อใช้ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบไฮบริด คุณจะสามารถใช้วิธีการจัดเก็บข้อมูลทั้งสองวิธีนี้ได้บนแพลตฟอร์มเดียว

ผู้ให้การบริการคลาวด์คืออะไร

ผู้ให้การบริการคลาวด์คือบริษัทที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีระบบคลาวด์เป็นองค์ประกอบ ซึ่งอาจเป็นแพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐาน แอปพลิเคชัน หรือโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก แทนที่จะเป็นเจ้าของกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลของคุณเอง การจัดเก็บข้อมูลของคุณผ่านผู้ให้การบริการคลาวด์แบบจ่ายตามการใช้งานจะช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเงินและเวลา

ค้นพบวิธีที่ดีกว่าในการทำงานร่วมกัน

เริ่มต้นใช้งาน Dropbox Business