ต้องการสร้างพ็อดแคสต์ของคุณเองใช่ไหม

หากคุณเป็นเหมือนฉันเมื่อก่อน คุณอาจคิดว่าการทำพ็อดแคสต์นั้นง่ายเหมือนการคว้าไมค์และค้นหาแขกรับเชิญที่มีฝีปากดีมาพูดคุยกัน กลายเป็นว่ามันซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อย

สำหรับ Remotely Curious นั้นต้องใช้โปรดิวเซอร์กว่าครึ่งโหลและคนที่มีมันสมองอันชาญฉลาดอีกมากมายเพื่อทำให้งานของเรามีชีวิตขึ้นมา กระบวนการแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นการจองคิวแขกรับเชิญ การเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์ การตัดต่อเสียงให้เป็นเรื่องราวเดียวกัน หรือการทำให้เสียงออกมาฟังดูดีนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับคนหลายคนและการให้ข้อคิดเห็นกันไปมาหลายรอบ เราใช้เวลาคิดเชิงวิพากษ์และวางแผนนานถึง 9 เดือนก่อนที่จะเปิดตัวพ็อดแคสต์หนึ่งตอน  

ฟังดูต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ข่าวดีก็คือ มีสูตรมาตรฐานสำหรับการทำพ็อดแคสต์ที่ที่ใครๆ ก็สามารถใช้ได้อยู่ 

ไม่ว่าคุณจะบันทึกเสียงจากห้องน้ำในห้องนอนหรือสตูดิโอจริง การผลิตพ็อดแคสต์มีขั้นตอนพื้นฐานเพียงไม่กี่ขั้นตอน:

1. ขั้นการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ ในขั้นตอนนี้ คุณจะเจาะลึกเข้าไปในคำถามใหญ่ๆ เช่น รายการของคุณเกี่ยวกับอะไร ใครจะเป็นคนโฮสต์ เป็นการส่งสารแบบตรงๆ การสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ หรือการสัมภาษณ์แบบสองทาง คุณจะปล่อยตอนต่างๆ บ่อยแค่ไหน ใครช่วยคุณวางแผนการตลาดได้บ้าง บทสนทนาเหล่านี้ต้องใช้การคิดและการอภิปรายเชิงวิพากษ์จำนวนมาก ดังนั้นคุณควรให้เวลากับตัวเองเพื่อทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้น
2. ขั้นก่อนการผลิต: ขั้นตอนนี้ คุณจะวางแผนปฏิทินการผลิต เลือกและทำกำหนดการสำหรับแขกรับเชิญ และเตรียมคำถามสัมภาษณ์ของคุณให้พร้อม โดยขั้นตอนนี้มีการประสานงานและการสื่อสารมากมาย ดังนั้นจงพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมที่มีทักษะการวางแผนและการเขียนที่โดดเด่นของคุณ 
3. ขั้นการผลิต: หากคุณเป็นนักเขียน พิธีกร หรือโปรดิวเซอร์ ขั้นตอนนี้จะรู้สึกเหมือนเป็น "วัตถุดิบที่สำคัญที่สุด" ของกระบวนการ คุณจะต้องบันทึกการสัมภาษณ์ เขียนบท ประกอบตอนต่างๆ เข้าด้วยกัน รวบรวมข้อคิดเห็น แก้ไขอีกครั้ง บันทึกส่วนที่ฟังดูยังไม่ค่อยเข้าที ("ปิ๊กอัพ") และแก้ไขเพิ่มเติม ขั้นตอนนี้ต้องการความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆ เช่น Dropbox และ Adobe ดังนั้นคุณจะต้องทำความคุ้นเคยกับสิ่งที่คุณกำลังใช้ หรือพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญอย่างที่เราเคยทำ 
4. ขั้นหลังการผลิต: นี่เป็นขั้นตอนที่มีความเฉพาะทางเทคนิคมากที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใส่เพลงหรือดนตรีประกอบ การปรุงแต่งเสียงที่อัด และการปรับแต่งในขั้นสุดท้ายให้สมบูรณ์ โดยขั้นตอนนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้พ็อดแคสต์ของคุณน่าฟังและเป็นมืออาชีพ เช่นเดียวกับขั้นตอนอื่นๆ ทั้งหมด ขั้นตอนนี้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขกลับไปกลับมามากมาย ดังนั้นคุณจะต้องฝึกพัฒนาทักษะการให้ข้อคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ที่คุณมีอยู่แต่เดิม 

หากคุณต้องการลองลงมือทำพ็อดแคสต์ อย่าลืมเข้าไปดู บทสัมภาษณ์ Jacob และ Eliza ฉบับเต็ม ของฉันเพื่อรับเคล็ดลับดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

ขอให้โชคดีกับโครงการพ็อดแคสต์ครั้งต่อไปของคุณ!