GIF คือคลิปวิดีโอแบบสั้นที่เล่นวนซ้ำๆ GIF เป็นวิธียอดนิยมในการดึงดูดความสนใจของผู้คน โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย แต่จะทำวิดีโอให้เป็น GIF ได้อย่างไร แล้วคุณต้องเสียเงินให้กับเครื่องมือตัดต่อรูปภาพจริงๆ หรือไม่
คำตอบสั้นๆ ก็คือไม่อีกต่อไป เมื่อก่อน คุณต้องใช้ Adobe Photoshop ในการสร้าง GIF ในปัจจุบัน ทุกคนสามารถสร้าง GIF จากวิดีโอหรือการบันทึกหน้าจอที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ในคู่มือนี้ เราจะแสดงให้คุณเห็นวิธีการสร้าง GIF ของคุณเอง รวมถึงวิธีการที่เครื่องมือฟรีอย่าง Dropbox Capture สามารถยกระดับ GIF เหล่านั้นไปอีกขั้น
ข้ามไปดูที่ส่วนต่างๆ
- GIF คืออะไร
- GIF เทียบกับรูปแบบไฟล์อื่นๆ
- GIF มีประโยชน์ในเรื่องอะไร
- วิธีการสร้าง GIF โดยไม่ใช้ Photoshop
- วิธีการสร้าง GIF จากการบันทึกหน้าจอ
GIF คืออะไร
GIF ก็คือไฟล์รูปภาพ มาจากชื่อเต็มว่า “Graphics Interchange Format” (รูปแบบสับเปลี่ยนภาพกราฟิก) ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนักนับตั้งแต่มีการคิดค้น GIF ขึ้นในช่วงยุค 80 เพราะ GIF ยังคงมีคุณภาพต่ำ โดยมีขนาดไฟล์ที่เล็กและความละเอียดปานกลางโดยทั่วไป
GIF คือสิ่งเดียวกันกับ GIF แบบเคลื่อนไหวหรือไม่
ไม่ใช่เลย GIF แบบเคลื่อนไหวคือภาพ GIF ที่ใช้เฟรมหลายเฟรมเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหว คล้ายกับวิดีโอแต่ไม่มีเสียงและเล่นวนซ้ำโดยอัตโนมัติ (นี่คือ GIF ซึ่งบางครั้งออกเสียงว่า “จิฟ” และบางครั้งออกเสียงว่า “กิฟ” ที่ไม่มีเสียงท้าย “เทอะ” ซึ่งคุณน่าจะรู้ดีที่สุด)
GIF และรูปแบบไฟล์อื่นๆ แตกต่างกันอย่างไร
โดยทั่วไปแล้ว GIF ที่ไม่ใช่ภาพเคลื่อนไหวจะแตกต่างจากรูปแบบไฟล์ภาพอื่นๆ ในลักษณะต่อไปนี้
รูปแบบภาพ
- JPEG: รูปแบบภาพที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก โดย JPEG จะรักษาคุณภาพของภาพในระดับสูงไว้และใช้งานได้ดีที่สุดกับภาพถ่ายและไฟล์ที่มีการเปลี่ยนสีที่ไหลลื่น
- PNG: รูปภาพที่มีคุณภาพสูงกว่า JPEG แต่มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่า ใช้งานได้ดีที่สุดสำหรับกราฟิกหรือข้อความที่ต้องมีเส้นที่ชัดเจน
- TIFF: คล้ายกับ PDF และรองรับหลายหน้า โดยทั่วไปมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับเอกสารแบบเขียนหรือสแกนเมื่อคุณต้องการทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก PDF
แม้ว่ารูปแบบไฟล์เหล่านี้จะชนะ GIF ในเรื่องคุณภาพของรูปภาพ แต่ไม่มีรูปแบบใดเลยที่รองรับภาพเคลื่อนไหวแบบเล่นวนซ้ำ (MP4 และ AVI เป็นไฟล์วิดีโอ ซึ่งหมายความว่าจะไม่เล่นวนซ้ำ แถมยังมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่ามาก)
GIF มีประโยชน์ในเรื่องอะไร
ไม่ว่าคุณจะต้องการอธิบายบางสิ่งบางอย่างหรือเพียงแค่ต้องการทำให้ใครบางคนหัวเราะขณะที่มองดูที่ iPhone ของตน GIF นั้นก็สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายเป็นอย่างมาก ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของ GIF ตามบริบท
ข้อดีของการใช้ GIF
- การเล่นวนซ้ำไปเรื่อยๆ: การเล่นวนซ้ำอัตโนมัติหมายถึงการดึงดูดความสนใจของผู้ชมอยู่เสมอขณะที่พวกเขาเลื่อนดู (ตัวอย่างเช่น โฆษณาอาจดึงดูดใจได้มากกว่าบนโซเชียลมีเดีย)
- สื่อสารอย่างชัดเจน: GIF เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้มากกว่าภาพนิ่ง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งในบทช่วยสอนต่างๆ
- ไฟล์ที่มีขนาดเล็กกว่า: ขนาดที่เล็กทำให้ GIF เป็นรูปแบบที่เหมาะสำหรับการส่งข้อความหรือโพสต์ทางออนไลน์
ข้อเสียของการใช้ GIF
- พาเลตสีที่จำกัด: เนื่องจากการบีบอัด GIF จึงมีเฉดสีที่จำกัด และการไล่ระดับสีบางส่วนอาจดูไม่ไหลลื่น
- ไม่มีเสียง: คุณจะต้องใช้ข้อความภายใน GIF หากต้องการหมายเหตุประกอบหรือซับไตเติล
วิธีง่ายๆ ในการสร้าง GIF โดยไม่ต้องใช้ Photoshop
เมื่อก่อน คนๆ หนึ่งต้องใช้เครื่องมือตัดต่อรูปภาพอย่าง Photoshop เพื่อสร้าง GIF โชคดีที่ตอนนี้มีโซลูชันฟรีให้ใช้แล้ว
ตัวอย่างเช่น Dropbox Capture ที่ช่วยให้คุณสามารถจับภาพหน้าจอและแปลงให้เป็น GIF ซึ่งคุณสามารถตัดต่อก่อนที่จะแบ่งปันได้ คุณยังสามารถบันทึกโดยใช้เว็บแคมและทำให้เห็นใบหน้าของคุณใน GIF ได้อีกด้วย (ฝ่ายขายและฝ่ายทรัพยากรบุคคลชื่นชอบสิ่งนี้ มีเหตุผลที่เราเรียก Capture ว่าเป็นสุดยอดตัวช่วยประหยัดเวลาในการสรรหาบุคลากร)
วิธีการสร้าง GIF จากการบันทึกหน้าจอด้วย Dropbox Capture
พร้อมที่จะเริ่มสร้าง GIF ของคุณเองหรือยัง ดีเลย ในส่วนนี้ เราจะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการสร้าง GIF จากการบันทึกหน้าจอ
อย่างแรก ติดตั้ง Dropbox Capture
ขั้นตอนที่ 1: บันทึกวิดีโอของคุณ
เปิดแอปพลิเคชันแล้วคลิก “บันทึก”
- เปิดแอปเดสก์ท็อป Dropbox Capture
- เลือกวิธีการบันทึกของคุณ โดยวิธีการบันทึกมีดังนี้
- คลิก บันทึกหน้าจอ + กล้อง เพื่อบันทึกหน้าจอและกล้องของคุณ
- คลิก บันทึกหน้าจอ เพื่อบันทึกเฉพาะหน้าจอของคุณ
- ไม่จำเป็นต้องบันทึกวิดีโอก่อนใช่หรือไม่ คลิก GIF เพื่อบันทึกหน้าจอของคุณและบันทึกเป็น GIF โดยตรง
- เลือกส่วนของหน้าจอที่คุณต้องการบันทึก และคุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- บันทึกหน้าจอทั้งหมดของคุณ
- บันทึกส่วนหนึ่งของหน้าจอ
- หรือบันทึกหน้าต่างใดหน้าต่างหนึ่ง
- ขณะที่บันทึก คุณยังสามารถใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ได้
- ทำพลาดใช่หรือไม่ เริ่มต้นใหม่โดยคลิกที่ไอคอน ทำซ้ำ
- หยุดชั่วคราวและบันทึกต่อโดยคลิกที่ไอคอน หยุดชั่วคราว
- ต้องการไฮไลท์บางสิ่งบางอย่างใช่หรือไม่ คลิกไอคอน วาด เพื่อใส่หมายเหตุประกอบให้กับการบันทึกหน้าจอของคุณแบบเรียลไทม์ในขณะที่บันทึกอยู่
เมื่อคุณหยุดบันทึกแล้ว คุณจะเห็นลิงก์ไปยังวิดีโอของคุณที่คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดของคุณ ค้นหาไฟล์ในโฟลเดอร์ “Capture” ของบัญชี Dropbox ของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: ตัดต่อหรือตัดแต่งวิดีโอของคุณ
ตอนนี้เมื่อคุณได้บันทึกฟุตเทจดิบแล้ว ก็ถึงเวลาตัดต่อ GIF ของคุณ
- เปิด Dropbox Capture ค้นหาและเลือกคลิปที่คุณต้องการใช้
- คลิก ตัดต่อวิดีโอ ที่ด้านขวาของหน้าจอ
- ใช้ตัวควบคุมเพื่อเลือกส่วนต่างๆ ของวิดีโอ ซึ่งคุณสามารถเลือกที่จะเก็บหรือลบออกจากการตัดต่อขั้นสุดท้ายได้
- เมื่อคุณพอใจแล้ว ให้คลิก บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนที่ 3: แปลงวิดีโอของคุณให้เป็น GIF
สุดท้าย แปลงวิดีโอที่ตัดต่อแล้วของคุณ โดยทำได้ดังนี้
- หลังจากเลือกไฟล์ของคุณใน Dropbox Capture แล้ว ให้คลิก ตัดต่อวิดีโอ ทางด้านขวาของหน้าจอ
- คลิก แปลงเป็น GIF
จากนั้น Dropbox Capture จะสร้างการบันทึกหน้าจอเวอร์ชัน GIF ที่คุณตัดต่อ ซึ่งจะเปิดในแท็บใหม่โดยอัตโนมัติ
ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างใช่หรือไม่ ไม่ต้องกังวล วิดีโอต้นฉบับของคุณจะยังคงใช้งานได้ หากคุณต้องการกลับไปปรับแต่งขั้นสุดท้าย
ขั้นตอนที่ 4: แบ่งปัน GIF การบันทึกหน้าจอของคุณ
ตอนนี้เมื่อ GIF ของคุณได้รับการแปลงและพร้อมใช้งานแล้ว คุณก็สามารถแบ่งปัน GIF อย่างไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ
เลือก GIF ใน Capture จากนั้นคุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ดาวน์โหลด (บันทึกสำเนา GIF ของคุณลงในเครื่องของคุณ)
- คัดลอกลิงก์ (แบ่งปันลิงก์ไปยัง GIF ของคุณในอีเมล แชทกลุ่ม หรือที่อื่นๆ ที่คุณต้องการ)
- คัดลอกโค้ดฝัง (ฝัง GIF ของคุณโดยตรงในหน้า HTML โดยไม่ต้องดาวน์โหลดสำเนา)
คงจะดีไม่น้อยใช่ไหมหากได้เห็นผลจากการทำงานหนักของคุณ คุณทำได้นะ เมื่อคุณแบ่งปัน GIF ของคุณแล้ว คุณสามารถดูได้ว่ามีการดู GIF ของคุณไปแล้วกี่ครั้งจากภายใน Dropbox Capture
ตู้ม ความพึงพอใจแบบทันที
สร้าง GIF การบันทึกหน้าจอด้วยวิธีง่ายๆ ด้วย Dropbox Capture
ด้วย Capture การส่งต่อข้อความของคุณด้วยการใช้ภาพหน้าจอ, GIF หรือวิดีโอง่ายๆ ที่คุณบันทึกเองจึงเป็นเรื่องง่ายและฟรี สื่อสารในสิ่งที่คุณต้องการโดยไม่ต้องจัดประชุม