บทความ
ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟที่ Dropbox จัดการชีวิตเสมือนจริงครั้งแรกของเธอได้อย่างไร
การทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟที่ Dropbox หมายถึงการทำงานร่วมกับกลุ่มผู้นำข้ามสายงาน การผลักดันแบรนด์ไปข้างหน้า และการสนับสนุนทีมนักครีเอทีฟที่ยอดเยี่ยมในการสร้างสรรค์งานที่สุดยอดของตนเอง ในที่ทำงาน Liz จะต้องเข้าร่วมประชุมการร่วมมือด้านครีเอทีฟหรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมของเธอด้วยกระดานแบบปัดที่สามารถโต้ตอบได้ แต่หลังจากที่เปลี่ยนมาทำงานจากทางไกลเต็มเวลา กระบวนการออกแบบทั้งหมดย้ายไปบนโลกออนไลน์ และ Liz ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการทำงานแบบใหม่นี้จะไม่ลดประสิทธิภาพของกระบวนการทางครีเอทีฟ
หากการปรับตัวเข้ากับสไตล์การทำงานแบบใหม่ยังไม่ใช่งานที่หนักพอ Liz ยังมีความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิตที่บ้านให้ต้องรับมืออีกด้วย เมื่อ Liz ไม่ยุ่งกับการทำงานที่ Dropbox เธอก็ประสบความยากลำบากในการติดตามงานเอกสารที่ดูเหมือนไร้ที่สิ้นสุด รวมถึงรูปภาพที่มาพร้อมกับการเป็นแม่มือค่อนข้างใหม่ของลูกชายวัยสองขวบครึ่ง ระหว่างที่เกิดการระบาดใหญ่ของโรค Liz แยกครอบครัวที่ใกล้ชิดของเธอให้ห่างจากพ่อแม่เพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำการแชร์รูปภาพใหม่ๆ กลายเป็นเรื่องยาก จากนั้นเธอก็ย้ายครอบครัวของเธอไปอยู่อีกฟากของประเทศในช่วงการระบาด แล้วยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องสมัครบริการรับเลี้ยงเด็กสำหรับลูกชายของเธอจากอีกฟากของประเทศอีกด้วย
ก่อนที่เธอจะย้ายทุกอย่างไปยังคลาวด์ เธอใช้แฟ้มเก็บเอกสารสามห่วงแบบจับต้องได้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้เธอเรียกแฟ้มนั้นว่า "Dropbox แบบแอนะล็อก" แต่การจัดเก็บทุกอย่างให้เป็นระเบียบอยู่เสมอและแบ่งปันเอกสารก็เป็นเรื่องยาก การที่เธอจำเป็นต้องหาโซลูชันแก้ไขจึงเป็นเรื่องชัดเจน
ฉันยุ่งเป็นพัลวันไปกับภาระงานในการสร้างทีมใหม่ การเป็นแม่มือใหม่ และงานมหาศาลในการย้ายครอบครัวไปยังอีกฟากของประเทศท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโรค
อัพโหลด จัดระเบียบ และแบ่งปัน
Liz ย้ายเอกสารทั้งหมดของครอบครัวไปยังคลาวด์ ไม่โดยการอัพโหลดเอกสารฉบับดิจิทัลก็โดยการใช้ตัวสแกนเอกสารของ Dropbox สำหรับเอกสารฉบับจริง การจัดเก็บทุกอย่างในคลาวด์ช่วยให้สามารถแยกทุกอย่างออกเป็นโฟลเดอร์ย่อยต่างๆ ที่สามารถแบ่งปันได้ เช่น "ใบสมัครบริการรับเลี้ยงเด็ก" "ประวัติการแพทย์" "เอกสารสำคัญ" แทนที่จะต้องส่งเอกสารตัวจริง เธอก็สามารถแบ่งปันโฟลเดอร์ที่เหมาะสมกับโรงเรียนที่เธอสมัครใช้บริการรับเลี้ยงเด็กได้ง่ายๆ
เก็บความทรงจำเก่าและใหม่ให้ปลอดภัย
Liz ใช้การอัพโหลดจากกล้องและการซิงค์เพื่อสำรองภาพทั้งหมดใน Camera Roll ของเธอ ซึ่งเป็นการบันทึกทุกอย่างในความละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ อีกทั้งยังสแกนภาพถ่ายฉบับจริงเก่าๆ อีกด้วย ดังนั้น การจัดระเบียบ การติดป้าย และการจัดเรียงทุกอย่างทางออนไลน์จึงเป็นเหมือนการมีสมุดภาพดิจิทัลของแต่ละปี ตอนนี้เธอจึงเพียงต้องแบ่งปันลิงก์ผ่าน Dropbox กับพ่อแม่ซึ่งชื่นชอบการพิมพ์รูปภาพออกมาแขวนบนผนัง แม้จะไม่มีอะไรมาทดแทนการนั่งแล้วรับชมภาพพร้อมกันหรือการสัมผัสช่วงเวลาสนุกๆ ด้วยตัวเอง แต่ครอบครัวของเธอพบวิธีในการเชื่อมต่อถึงกันอยู่เสมอโดยการแสดงความคิดเห็นโดยตรงลงบนรูปภาพ
ยืดหยุ่นตามสถานการณ์
ทีนี้เมื่องานและชีวิตที่บ้านของ Liz ผสานเข้าด้วยกันขณะเดินทาง ความยืดหยุ่นในการทำงานจากทุกหนทุกแห่งจึงถือเป็นหัวใจสำคัญ การเข้าถึงทุกอย่างบนโทรศัพท์ช่วยให้เธอสามารถปรับตัวยืดหยุ่นตามความจำเป็นเพื่อสร้างสมดุลระหว่างงานที่ยุ่งและตารางเวลาในการเป็นผู้ปกครอง เธอสามารถอัพโหลดรูปภาพของลูกชายบนชิงช้าสำหรับเด็กโตในครั้งแรก แสดงข้อคิดเห็นบนงานของนักออกแบบ แก้ไขเอกสาร Dropbox Paper หรืออัพเดตลำดับเวลาโปรเจกต์ได้ทั้งหมดใน Dropbox และแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับ Paper
ไม่มีอะไรมาแทนที่การทำงานเป็นมืออาชีพและการเป็นผู้ปกครองอย่างแท้จริงได้ แต่ Dropbox ได้ช่วย Liz ลดความวุ่นวายและเสียงรบกวนออกไปได้ เพื่อให้เธอสามารถตั้งใจไปกับสิ่งที่สำคัญ ซึ่งไม่เหมือนกับการใช้แฟ้มเก็บเอกสารสามห่วง ข้อมูลและการสื่อสารของเธอจะไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือสูญหาย เครื่องมือการทำงานร่วมกันของ Dropbox ช่วยให้เธอมีความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้นและเป็นผู้อำนวยการที่ดีกว่าเดิมสำหรับทีม นอกจากนี้ การจัดเก็บและการแบ่งปันรูปภาพครอบครัวในคลาวด์ยังช่วยให้เธอสามารถเชื่อมต่อกับพ่อแม่อยู่เสมอแม้ตัวจะห่างไกลกัน
สำหรับ Liz แล้ว Dropbox เป็นอะไรที่มากกว่าเพียงพื้นที่ในการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ โดยเป็นแหล่งที่เธอจัดการงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตให้ง่ายขึ้น รวมทั้งจัดการงานทั้งหมดในการสร้างสมดุลระหว่างหน้าที่การงานและครอบครัว
เพราะงานและชีวิตของฉันรวมเข้าด้วยกันแล้วแน่ๆ การใช้ Dropbox สำหรับทั้งสองอย่างจึงเป็นเพียงการขยายสิ่งที่ฉันทำอยู่เป็นปกติทุกวันในคอมพิวเตอร์ออกไปเท่านั้น